นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษ เธเรซ่า เมย์ ตัดสินใจเลื่อนการลงคะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องข้อตกลงแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ เบร็กซิต (Brexit) ออกไปโดยไม่มีกำหนด
หลังการโต้เถียงในรัฐสภาอังกฤษที่กินเวลาถึงสี่วัน ท่ามกลางกระแสการต่อต้านในหมู่คนอังกฤษที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวันจันทร์ นายกฯ เมย์ ได้ประกาศเลื่อนการลงคะแนนเสียงในข้อตกลงนี้ออกไป
ข้อกตกลงนี้เป็นข้อตกลงระหว่างอังกฤษกับคณะกรรมการสหภาพยุโรป เกี่ยวกับการจัดทำร่างคำประกาศที่จะใช้เป็นแนวทางในการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปอย่างราบรื่นและเป็นระเบียบ
เอกสารดังกล่าวระบุถึงความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ในทางการค้าและเศรษฐกิจ การบังคับใช้กฎหมายและการตัดสินคดีความต่างๆ ตลอดจนนโยบายต่างประเทศ ความมั่นคง และการทหาร
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการลงมติที่ยืดเยื้อออกไปนี้ จะยิ่งทำให้โอกาสที่จะเกิดข้อตกลง Brexit ลดน้อยลง และหากเป็นเช่นนั้น หมายความว่า นายกฯ เมย์ อาจถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่ง และอาจหมายถึงจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษด้วย
สำหรับเบื้องหลังคำสั่งเลื่อนการลงมติครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นเพราะที่ปรึกษาของนายกฯ เมย์แนะนำว่า หากมีการลงมติตอนนี้ มีโอกาสสูงที่ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องการให้นายกฯ เมย์ กลับไปหารือกับอียูอีกครั้ง
ข่าวเรื่องการเลือนการลงมติครั้งนี้ ฉุดให้เงินปอนด์มีค่าร่วงลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
ที่ผ่านมา นายกฯ เมย์ เผชิญแรงกดดันในประเทศจากสมาชิกรัฐสภาบางส่วนที่มองว่า ข้อตกลง Brexit ครั้งล่าสุดนี้ยังไม่ใช่การแยกอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์ โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า อังกฤษยังคงผูกติดกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ของอียูมากเกินไป
ขณะเดียวกัน ยังมีความกังวลสำคัญในการเจรจาล่าสุด คือ การควบคุมจัดการสินค้าผ่านแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือที่เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ กับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปนั้น จะออกมาในรูปแบบไหน
ตามกำหนดการแล้ว อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มีนาคม ปี ค.ศ. 2019 แต่ข้อตกลงในรายละเอียดของการแยกตัวนั้นจำเป็นต้องมีการลงนามตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้รัฐสภาของอังกฤษและสหภาพยุโรปมีเวลาในการรับรองข้อตกลงดังกล่าว