แมตต์ ฮานค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมของอังกฤษ ระบุเมื่อวันพุธ (19 สิงหาคม) ว่า อังกฤษจะทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการระบาดของไวรัส
รมต.ฮานค็อก กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า รัฐบาลอังกฤษจะขยายกลุ่มวิจัยการตรวจหาเชื้อจาก 28,000 คนในปัจจุบัน เป็น 150,000 คนในเดือนตุลาคม และจะขยายไปจนถึง 400,000 คน เพื่อให้เห็นภาพการระบาดในระดับประเทศได้ชัดขึ้นและเพื่อตรวจหาการระบาดในระดับท้องถิ่นได้แม่นยำขึ้น
รมต.ฮานค็อก ระบุว่า การขยายการตรวจหาเชื้อจะทำให้อังกฤษได้ข้อมูลต่าง ๆ ละเอียดขึ้น ทั้งแหล่งแพร่เชื้อไวรัส เพศของผู้ติดเชื้อ บริเวณที่มีการระบาดของไวรัส ซึ่งจะช่วยให้ทางการออกมาตรการรับมือกับไวรัสได้ตรงจุดมากขึ้น
ทางรัฐบาลอังกฤษยังระบุด้วยว่า ห้องทดลองที่อุทยานวิทยาศาสตร์พอร์ตัน ดาวน์ ในเขตการปกครองวิลต์เชอร์ กำลังทดลองตรวจหาไวรัสโควิด-19 จากน้ำลายซึ่งไม่ต้องรอผลจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ทราบผลการติดเชื้อได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าออกมาตรการล็อคดาวน์เพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสช้าเกินไป ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสเพื่อวิเคราะห์การระบาดช้าเกินไป และนำอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยทางสุขภาพมาให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนำระบบติดตามผู้ติดเชื้อมาใช้ช้าเกินไป
ขณะนี้ อังกฤษมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในยุโรป โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละกว่า 1,000 คนในช่วงแปดวันจากสิบวันที่ผ่านมา และยังเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่มีการหดตัวของเศรษฐกิจมากที่สุดอีกด้วย