รัฐบาลนิวซีแลนด์ ประกาศเลื่อนการเลือกตั้งที่เดิมมีกำหนดในเดือนหน้า หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ กล่าวในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมแทน เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคต่างๆ มีเวลาวางแผนหาเสียงขณะที่มาตรการจำกัดต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่มีผลบังคับใช้อยู่
นายกฯ อาร์เดิร์น ถูกกัดดันให้ตัดสินใจเลื่อนการเลือกตั้งมาสักพัก หลังแผนหาเสียงทั้งหลายต้องหยุดชะงัก เนื่องจากอัตราการติดเชื้อที่พุ่งสูงในเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องออกคำสั่งปิดเมืองชั่วคราวเป็นเวลา 2 สัปดาห์
นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์กล่าวว่า การเลื่อนวันเลือกตั้งในเวลานี้ที่ใกล้ถึงกำหนดเดิม เป็นการตัดสินใจที่สำคัญมาก ขณะที่แผนการรองรับการกลับมาของการระบาดกำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยมีการทดสอบการติดเชื้ออย่างกว้างขวาง พร้อมการติดตามตัวผู้ที่เคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ที่จะช่วยจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสด้วย
อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านของนิวซีแลนด์มีความเห็นว่า รัฐบาลควรจะเลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นเดือนพฤศจิกายน หรือต้นปีหน้าแทน เนื่องจากมาตรการจำกัดต่างๆ ทำให้การหาเสียงเป็นไปได้ยาก และกำหนดเวลาใหม่นี้ทำให้ตัวนายกฯ อาร์เดิร์น ได้เปรียบกว่าด้วย
ส่วนที่ออสเตรเลีย รัฐบาลรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดมาในวันจันทร์ โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 25 รายในรัฐวิกตอเรีย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 285 ราย
ศาสตราจารย์ โจดี้ แมคเวอร์นอน ผู้อำนวยการด้านโรคระบาด ประจำสถาบัน Doherty Institute ในนครเมลเบิร์น กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันล่าสุดซึ่งต่ำกว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อน ที่สูงถึงกว่า 700 รายต่อวัน รวมทั้งจำนวนพื้นที่ที่มีการระบาดและอัตราการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่ลดลง ถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่ดีขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้จัดงานฉลองปีใหม่ในนครซิดนีย์กำลังถูกกดดันให้ยกเลิกงานจุดพลุที่มีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากภาวการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่ผู้บริหารเมืองมองว่า การจัดงานดังกล่าวที่ส่งเสริมให้คนออกมารวมตัวกันเป็นจำนวนมา อาจเป็นการไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม