นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน เผชิญกับอุปสรรคสำคัญอีกครั้งในการนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการจัดทำข้อตกลง หรือ Hard Brexit หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษรับรองในหลักการให้ผ่านร่างกฎหมายป้องกันการเกิด Hard Brexit ดังกล่าว
โดยสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงมติในวันพุธด้วยคะแนนเสียง 329 ต่อ 300 รับรองร่างกฎหมายชะลอการแยกตัวจากอียูไปอีกสามเดือน เพื่อให้สามารถจัดทำข้อตกลงฉบับใหม่ที่ระบุเงื่อนไขการแยกตัวของอังกฤษอย่างสมบูรณ์
เมื่อผ่านสภาล่างแล้ว ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาและลงมติต่อไป
ด้านนายกฯ จอห์นสัน ยืนยันว่าอังกฤษจะต้องแยกตัวออกจากอียูในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ไม่ว่าจะมีข้อตกลงหรือไม่ก็ตาม
เมื่อวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้ประกาศว่า ถ้า ส.ส. ฝ่ายที่คัดค้าน Hard Brexit พยายามออกกฎหมายเพื่อปิดกั้นหรือผูกมัดตน ตนก็จะขออนุมัติต่อสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดในวันที่ 14 ตุลาคม โดยคาดหวังว่าพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลขณะนี้จะได้รับเลือกกลับเข้ามามีที่นั่งในสภามากกว่าในปัจจุบัน
ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษกำลังมีความแตกแยกอย่างหนักในเรื่องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยฝ่ายที่คัดค้านเรื่อง No-deal Brexit หรือ Hard Brexit อ้างเหตุผลว่า การแยกตัวโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ จะเป็นผลเสียร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดปัญหาชะงักงันทั้งเรื่องการเดินทางและการลำเลียงขนส่งอาหารกับเวชภัณฑ์ต่างๆ ไปยังอังกฤษ
และทำให้ต้องกลับไปใช้มาตรการคุมเข้มที่พรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือซึ่งอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ กับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ซึ่งยังเป็นประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป
แต่ฝ่ายที่สนับสนุนเรื่อง Hard Brexit แย้งว่า ความปั่นป่วนวุ่นวายใดๆ หากมีจริงก็จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ และอังกฤษจะสามารถปรับตัวรับมือได้ในที่สุด