หลายรัฐอเมริกาสั่งแบน 'หนังสือต้องห้ามสำหรับเยาวชน'

เขตการศึกษาต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ ได้พยายามห้ามใช้หนังสือหลายเล่มมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่ง PEN America องค์กรเพื่อการแสดงความเห็นอย่างเสรีได้เฝ้าติดตามความพยายามดังกล่าว และชี้ว่า บางรัฐได้ออกกฎหมายเพื่อจำกัดหนังสือบางเล่มที่เยาวชนสามารถอ่านได้ แต่กฎหมายใหม่เหล่านี้กำลังถูกท้าทายอยู่ในขณะนี้

ในเดือนมิถุนายน ปี 2023 เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ได้ลงนามในกฎหมายที่ห้ามนำหนังสือซึ่งเข้าข่าย “มีเนื้อหาทางเพศโจ่งแจ้ง, ใช้คำหยาบคาย หรือไม่เหมาะสมต่อการศึกษา” สำหรับสอนในโรงเรียน โดยกฎหมายกำหนดให้รัฐเท็กซัสจัดทำระบบการให้คะแนนใหม่ในการประเมินหนังสือของห้องสมุดในโรงเรียนรัฐบาล

ผู้ว่าฯ แอ็บบอตต์ บอกว่า มีหนังสือบางเล่มในห้องสมุดที่มีทั้งภาพและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก

กฎหมายที่คล้ายกันนี้ในรัฐอาร์คันซอจะมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมเช่นกัน ซึ่งบรรดาบรรณารักษ์อาจถูกตั้งข้อหาในคดีอาญาหากพบว่ามีการละเมิดกฎหมายดังกล่าว

สมาคมห้องสมุดแห่งรัฐอาร์คันซอได้ยื่นคำร้องเพื่อยุติการใช้กฎหมายนี้แล้ว โดยแครอล คอฟฟีย์ (Carol Coffey) จากสมาคมห้องสมุดแห่งรัฐอาร์คันซอ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวมีสำนวนที่คลุมเครือมาก ดังนั้นจึงไม่มีความชัดเจนว่าจะปฏิบัติตามได้อย่างไร

แครอล คอฟฟีย์ กล่าวว่า รัฐบาลเอาแต่พูดถึงเนื้อหาทางเพศที่โจ่งแจ้ง ทั้ง ๆ ที่หนังสือบางเล่มที่ได้รับการกล่าวถึง เช่น หนังสือที่มีชื่อว่า 'It's Perfectly Normal' โดยโรบี แฮริส เป็นหนังสือเกี่ยวกับเพศศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยผู้ปกครองสอนลูก ๆ ของตน

เธอกล่าวว่า “ต่างคนก็ต่างความคิดว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้”

นาดีน จอห์นสัน ผู้เชี่ยวชาญจาก PEN America ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการแสดงความคิดเห็นเสรีที่ไม่แสวงหาผลกำไร กล่าวว่า กฎหมายของเท็กซัสและอาร์คันซอเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เธอกล่าวว่า “ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา PEN America ได้ติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับการแบนหนังสือทั่วประเทศ และเราพบว่ามีอย่างน้อย 32 รัฐที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้

นอกจากนี้ PEN America ยังพบว่า หนังสือที่ถูกตรวจสอบมักหยิบยกประเด็นเรื่องกิจกรรมทางเพศ เชื้อชาติ เพศ และความเหมาะสมตามวัย โดยนักวิจารณ์ระบุว่า เนื้อหาที่พูดถึงชุมชน LGBTQ มักได้รับผลกระทบมากที่สุดซึ่งจอห์นสันเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและอาจส่งผลเสียต่อเด็กวัยรุ่นและสังคมอเมริกันอีกด้วย

จอห์นสันกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เราเห็นอยู่ในตอนนี้คือการที่รัฐบาลบังคับให้มีการเซ็นเซอร์เนื้อหาในหนังสือ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับใครก็ตามที่ไม่ว่าจะมีมุมมองหรืออุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร ไม่มีใครต้องการให้รัฐบาลยื่นมาเข้ามาเพื่อใช้กฎหมายบังคับในเรื่องนี้ เพราะนั่นเป็นการละเมิดสิทธิในรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ชาวอเมริกันโดยทั่วไปไม่ชอบความคิดเรื่องการแบนหนังสือในโรงเรียนมากนัก ตัวอย่างเช่น การสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่โดย National Public Radio ในเดือนมิถุนายน พบว่าชาวอเมริกันจำนวน 69% ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายของรัฐที่แบนหนังสือบางเล่มจากห้องสมุดโรงเรียน

รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกการแบนหนังสือว่าเป็นการเซ็นเซอร์ ขณะที่ เจย์ โรเบิร์ต พริทซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ได้ลงนามในกฎหมายต่อต้านการแบนหนังสือ โดยทางรัฐจะตัดงบประมาณของรัฐบาลออกจากห้องสมุดและโรงเรียนใด ๆ ก็ตามที่ห้ามเผยแพร่หรือแบนหนังสือบางเล่ม

• ที่มา: วีโอเอ