ไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีหมื่นล้าน และอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศยุติการชิงชัยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ จากความปราชัยในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารี 14 รัฐ หรือ ซูเปอร์ทิวส์เดย์ เมื่อวันอังคาร
แถลงการณ์ของบลูมเบิร์ก ส่วนหนึ่งระบุว่า เมื่อ 3 เดือนก่อนเขาก้าวเข้ามาในสนามเลือกตั้งเพื่อหวังจะเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ในวันนี้เขาเลือกที่จะออกจากสนามเลือกตั้งด้วยเหตุผลเดียวกันก็คือเพื่อเอาชนะทรัมป์ - เพราะสิ่งที่ผ่านมาได้บอกว่าการยังอยู่ในสนามแข่งของเขาจะทำให้เป้าหมายในการโค่นโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นไปได้ยากขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ นายบลูมเบิร์ก ยังได้ออกแรงสนับสนุนอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำชัยชนะเหนือ สว. เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ในวันซูเปอร์ทิวส์เดย์ โดยบอกว่าตนเชื่อมั่นว่าการที่จะเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ได้ จะต้องเริ่มจากการสนับสนุนตัวแทนพรรคที่มีศักยภาพมากที่สุด และจากผลคะแนนในวันอังคาร บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าตัวแทนคนนั้น คือ เพื่อนของเขาอย่างโจ ไบเดน และว่าโจ ไบเดน มีความมุ่งมั่นในการเข้าไปจัดการปัญหาที่สำคัญของประเทศ อย่างประเด็นกฏหมายปืน, ระบบบริการสุขภาพ, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสร้างงานในประเทศ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความถึงการถอนตัวจากนายบลูมเบิร์ก โดยบอกว่าบลูมเบิร์กคือผู้แพ้ที่สุดในค่ำคืนวันอังคาร และว่าเงินกว่า 700 ล้านดอลลาร์ของเขาได้ละลายหายไปอย่างไร้ค่า เหลือเพียงแต่ชื่อเล่น Mini Mike ที่เขาเรียกไว้เท่านั้น
ทั้งนี้ ไมเคิล บลูมเบิร์ก ประกาศลงแข่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และไม่กี่สัปดาห์ก่อนเขากลายเป็นดาวรุ่งอยู่พอสมควร ก่อนที่จะต้องถอนตัวหลังคะแนนเสียงสนับสนุนที่ย่ำแย่ของเขาในวันซูเปอร์ทิวส์เดย์ ที่ถือเป็นสนามเลือกตั้งแรกของเขาเสียด้วย ทั้งที่มหาเศรษฐีหมื่นล้านรายนี้ได้ทุ่มเงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อการอัดฉีดโฆษณาแคมเปญเลือกตั้งของเขา แต่ปรากฏว่าเขากลับได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้นเพียงที่ American Samoa
