ประชาชนชาวอเมริกันใน 14 รัฐทั่วประเทศออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้แทนพรรคเดโมแครตในรัฐของตนในการเลือกตั้งขั้นต้น ที่รู้จักกันในชื่อ Super Tuesday เพื่อหาตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้
ก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครตในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ที่มีขึ้นพร้อมกันในหลายๆ รัฐที่มีผู้ใช้สิทธิ์ซึ่งมีจุดยืนทางการเมืองต่างกันไป คือตั้งแต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมนำ เช่น รัฐแอละแบมา รัฐเทกซัส และรัฐเทนเนสซี ไปจนถึงฝ่ายเสรีนิยม เช่น รัฐเวอร์มอนต์ และรัฐแมสซาชูเซตส์ รวมทั้งรัฐที่มีความหลายหลายทางเชื้อชาติ ซึ่งก็คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีการคาดกันว่า วุฒิสมาชิก เบอร์นี แซนเดอร์ส น่าจะเป็นผู้ที่ได้เสียงสนับสนุนจากผู้แทนพรรคเดโมแครต หรือ party delegates มากที่สุด
อย่างไรก็ดี แซนเดอร์ส ยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันอันดุเดือดจากผู้เสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งตัวแทนพรรค อันรวมถึง โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ วุฒิสมาชิก อลิซาเบธ วอร์เรน จากรัฐแมสซาชูเซตส์ และอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ไมเคิล บลูมเบิร์ก
ในเวลานี้ ไบเดน ดูเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของแซนเดอร์ส อันเป็นผลมาจากชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการที่ได้รับการสนับสนุนจาก อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาธ์เบนด์ พีท บูเดเจ็จ และวุฒิสมาชิก เอมี่ โคลบูชาร์ ที่ถอนตัวจากการเข้าชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคไปแล้ว
ขณะที่ หลายฝ่ายเชื่อว่า อย่างน้อย แซนเดอร์ส น่าจะได้เสียงสนับสนุนมากที่สุดจากสมาชิกในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่สุดด้วยจำนวนผู้แทนถึง 415 คน และน่าจะได้เสียงสนับสนุนมากพอควรในรัฐเทกซัส ที่มีจำนวนผู้แทนรัฐ 228 คน ผลสำรวจล่าสุดระบุว่า หากวัดกันในเรื่องของจำนวนรัฐ ไบเดน น่าจะชนะมากที่สุด
ในส่วนของ บลูมเบิร์ก นั้น ผลงานในการเข้าร่วมอภิปรายนโยบาย 2 ครั้งที่ผ่านมาทำให้หลายฝ่ายไม่แน่ใจว่า มหาเศรษฐีหมื่นล้านผู้นี้จะชนะใจสมาชิกพรรคใน 14 รัฐได้มากเพียงใด ขณะที่ สว. วอร์เรน ที่เคยเป็นขวัญใจสมาชิกพรรคเอง แต่ยังไม่ได้กำชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในเส้นทางการชิงชัยนี้
ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้แทนพรรคอย่างน้อย 1,991 คน ในที่ประชุมใหญ่ของพรรค
สำหรับการเลือกตั้ง Super Tuesday นี้ จะมีผู้แทนของพรรคเดโมแครตจากรัฐต่าง ๆ รวม 1,357 คนที่จะได้รับการจัดสรรตามสัดส่วนคะแนนเสียงหรือ popular votes ซึ่งผู้สมัครแต่ละคนได้รับจากพื้นที่ของแต่ละรัฐ โดยคิดเท่ากับราว 34% ของจำนวนผู้แทนของพรรคจากรัฐต่าง ๆ ทั้งหมด