ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รมต.บลิงเคนเตรียมเยือนเวียดนาม-หวังปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคี


U.S. Secretary of State Antony Blinken at Summit for Democracy in Washington, U.S.
U.S. Secretary of State Antony Blinken at Summit for Democracy in Washington, U.S.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน มีแผนเยือนเวียดนามในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการเดินทางเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำของสองประเทศที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า “รัฐมนตรี(บลิงเคน) จะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของเวียดนามเพื่อหารือวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันเกี่ยวกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่มีความเชื่อมโยง รุ่งเรือง มีสันติและมีความยืดหยุ่นในการฟื้นตัว”

ทั้งนี้ สหรัฐฯ และเวียดนามฉลองครบรอบ 10 ปีข้อตกลง U.S.-Vietnam Comprehensive Partnership ในปีนี้ ขณะที่ ทั้งสองประเทศได้เริ่มหารือหนทางที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้สูงขึ้นไปเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อยู่

การประชุมระหว่างบลิงเคนและเจ้าหน้าที่อาวุโสเวียดนามที่กรุงฮานอยในสัปดาห์นี้มีกำหนดจัดขึ้นหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียน ฟู จ่อง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม และทั้งสองได้ตกลงที่จะขยายความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างกัน

อันเดรย์กา นาตาเลกาวา นักวิชาการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จาก Center for Strategic and International Studies ในกรุงวอชิงตัน บอกกับ วีโอเอ ว่า “ส่วนหนึ่งของการหารือนั้นรวมถึงแผนการเดินทางของผู้นำทั้งสองเพื่อเยือนเมืองหลวงของอีกฝ่าย โดยยังไม่มีการตัดสินว่า (การเยือนที่ว่า)จะเกิดขึ้นเมื่อไรกันแน่ แต่จากการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีไบเดนและเลขาธิการจ่อง มีความแน่นอนว่า ทั้งสองต่างมีความสนใจที่จะจัดให้เกิดขึ้นในช่วงปีนี้”

ปัจจุบัน เวียดนามมีการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูต 3 ระดับกับประเทศอื่น ๆ อยู่ อันได้แก่ การเป็นหุ้นส่วนรอบด้าน (Comprehensive Partnership) ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) โดยสหรัฐฯ นั้นเป็นตลาดส่งออกอันดับต้น ๆ สำหรับเวียดนาม แต่ถูกจัดให้เป็นหุ้นส่วนระดับสามสำหรับรัฐบาลกรุงฮานอย ขณะที่ จีนและรัสเซียถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ในอันดับต้น ๆ ในสายตาเวียดนาม

นาตาเลกาวา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของเวียดนามมักกล่าวเสมอว่า จุดยืนการเป็นหุ้นส่วนนั้นมีความสำคัญด้านยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ยกเว้นเรื่องของชื่อที่ใช้เรียก พร้อมกล่าวว่า “สัญญาณในเวลานี้ที่เราเห็นอยู่แสดงให้เห็นว่า เวียดนามอาจกำลังพร้อมที่จะดำเนินการต่อไป(เพื่อยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ) แล้ว”

ที่มา: วีโอเอ

XS
SM
MD
LG