รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวในวันอังคารว่า สหรัฐฯ จะช่วยปกป้องฟิลิปปินส์ ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนที่เพิ่มขึ้นในทะเลจีนใต้
รัฐมนตรีบลิงเคนเดินทางเยือนกรุงมะนิลาเพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ เอนริเก มานาโล ในวันอังคาร โดยยืนยันว่า สหรัฐฯ จะยืนหยัดข้างฟิลิปปินส์ พร้อมยืนยันพันธกิจที่ "แข็งแกร่งดุจหุ้มเหล็ก" ในการร่วมปกป้องกันและกัน ในกรณีที่เกิดสงคราม ภายใต้สนธิสัญญาด้านการปกป้องประเทศร่วมกันซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อปี 1951
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือของฟิลิปปินส์มีเหตุกระทบกระทั่งกับเรือจีนหลายครั้งบริเวณพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้ นำไปสู่การตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นของสองประเทศ และความกังวลว่าจะลุกลามไปสู่ความขัดแย้ง
รมต.บลิงเคน กล่าวว่า "เส้นทางทางทะเลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อฟิลิปปินส์ ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ และยังมีความสำคัญต่อผลประโยชน์ของภูมิภาคนี้ รวมทั้งสหรัฐฯ และโลกโดยรวมด้วย"
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หลิน เจียน แถลงตอบโต้คำกล่าวของบลิงเคนว่า สหรัฐฯ ไม่มีสิทธิแทรกแซงในความขัดแย้งทางทะเลระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์แต่อย่างใด
เมื่อปลายปีที่แล้ว ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า เรือของตนลำหนึ่งได้รับความเสียหาย และมีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 4 คน จากการถูกเรือจีนพุ่งชนขณะปฏิบัติภารกิจลำเลียงเสบียงและส่งทหารไปหมุนเวียนประจำการบริเวณสันดอน เซคันด์ โธมัส โชล (Second Thomas Shoal) ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งกับจีน
ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง เรือประมงฟิลิปปินส์ถูกท้าทายโดยเรือลาดตระเวนของจีนบริเวณสันดอน สการ์โบโรห์ โชล (Scarborough Shoal) ซึ่งจีนยึดครองไว้ตั้งแต่ปี 2012 แม้ว่าจะอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ก็ตาม
หลังจากที่รัฐมนตรีบลิงเคนเดินทางถึงกรุงมะนิลาไม่นาน ทางทำเนียบขาวประกาศว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเป็นเจ้าภาพการประชุมไตรภาคีร่วมกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น ที่ทำเนียบขาวในเดือนหน้า เพื่อหารือประเด็นความมั่นคงต่าง ๆ ในแถบเอเชียด้วย
- ที่มา: วีโอเอ