ผวาไข้หวัดนกลาม – สหรัฐฯ เตือนหยุดเสี่ยง 'กอดวัว'

ความเสี่ยงของการระบาดของไข้หวัดนกที่แพร่ไปยังฝูงโคนมในหลายรัฐของอเมริกา ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการกอดวัวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ ในขณะนี้

กิจกรรม “กอดวัว” กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล ภายในคอกที่ถูกประดับด้วยแสงไฟระยิบระยับ ผู้เยี่ยมชมจะจ่ายเงิน 75 ดอลลาร์ แลกกับการโอบกอดและถ่ายรูปร่วมกับวัว บางคนชี้ว่าการกอดวัวนั้นช่วยบำบัดทางจิตใจ ฟาร์มขนาดเล็กในสหรัฐฯ นำรายได้ส่วนหนึ่งไปใช้เป็นค่าอาหารสัตว์ แต่กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรนี้ กำลังเผชิญกับความเสี่ยงครั้งใหม่ หลังจากที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ยืนยันว่าโรคไข้หวัดนก ได้กระจายสู่ฝูงโคนมในพื้นที่จำนวนเก้ารัฐของประเทศแล้ว

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการระบาดของโรคไข้หวัดนก น่าจะแพร่กระจายไปทั่วฟาร์มโคนมที่ได้รับใบอนุญาตมากกว่า 26,000 แห่งในสหรัฐฯ โดยอ้างอิงตัวเลขดังกล่าว มาจากการพบอนุภาคของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H5N1 ในตัวอย่างนมประมาณ 20% รวมทั้งยังพบว่า คนงานในอุตสาหกรรมโคนมรายหนึ่งในรัฐเท็กซัส มีผลบวกจากการทดสอบไวรัส ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) กำลังเฝ้าติดตามผู้ที่สัมผัสเชื้อไวรัสจำนวนมากกว่า 100 คน

แม้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในมนุษย์ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐท้องถิ่นและรัฐบาลกลางเรียกร้องให้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวและโคนม จำกัดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าถึงวัวเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด

ในรัฐมิชิแกน พบฟาร์มโคนมแห่งหนึ่งที่มีผลตรวจเป็นบวก หัวหน้าแผนกเกษตรของรัฐได้ลงนามคำสั่งฉุกเฉิน จำกัดการเข้าถึงฟาร์มโคนมและฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม

แม้คำสั่งดังกล่าว จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่า “ห้ามทำกิจกรรมกอดวัว” แต่ ทิม บอริง ผู้อำนวยการฝ่ายเกษตรและพัฒนาชนบทของรัฐมิชิแกน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะสวมกอดวัว นี่คือการปกป้องทั้งวัวและผู้คน"

ทางด้านเจ้าของ ลูซ ฟาร์มส์ (Luz Farms) ในรัฐอิลลินอยส์ ยืนยันที่จะดำเนินธุรกิจเปิดให้ “กอดวัว” ต่อไป โดยชี้ว่ารายได้จากผู้เยี่ยมชมเพียงหนึ่งชั่วโมง สามารถนำไปซื้อหญ้าแห้งหนึ่งมัด ใช้เป็นอาหารสำหรับสัตว์ฝูงเล็ก ๆ ได้ราวหนึ่งสัปดาห์เลยทีเดียว

กิจกรรม “กอดวัว” เป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในพื้นที่รัฐแมริแลนด์ แอริโซนา เท็กซัส และนิวยอร์ก ในช่วงสุดสัปดาห์ บางแห่งต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยเป็นเวลาสองเดือน

ข้อมูลจาก USDA ชี้ว่า ในปี 2022 กิจกรรมท่องเที่ยวหรือบริการสันทนาการเชิงเกษตร สร้างรายได้ราว 1.26 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน เฉพาะในสหรัฐฯ มีฟาร์มจำนวนมากกว่า 28,600 แห่งที่นำเสนอกิจกรรมเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น เล่นโยคะพร้อมกับลูกแพะ ป้อนอาหารลูกหมู หรือไขปริศนาเขาวงกตในทุ่งข้าวโพดและทุ่งดอกทานตะวัน

ในขณะนี้ กิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่เกษตรกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญ จากข้อมูลของ USDA ชี้ว่ารายได้เกษตรกรของสหรัฐฯ คาดว่าจะลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 18 ปี เนื่องจากราคาพืชผลที่ตกต่ำ ซึ่งฟาร์มขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ

เคิร์ต โควิงตัน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสินเชื่อ จากบริษัท แอกอเมริกา เลนดิง (AgAmerica Lending) กล่าวว่า “สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่ค้นพบตลาดเฉพาะกลุ่ม การท่องเที่ยวเชิงเกษตรคือตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (ของพวกเขา) อย่างแท้จริง”

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจาก USDA เชื่อว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนก แพร่กระจายจากนกอพยพไปสู่สัตว์ต่าง ๆ จำนวนหลายสิบสายพันธุ์ทั่วโลก และคาดว่าไวรัสกำลังแพร่กระจายในวัว ผ่านการสัมผัสน้ำนมดิบ

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จาก USDA ระบุว่า “ผู้ผลิตนมวัวทุกราย ควรเพิ่มความปลอดภัยเชิงชีวภาพมากขึ้นเป็นสองเท่า ตื่นตัวในการเฝ้าติดตามและควบคุมโรคในฝูงสัตว์ของตน”

แม้จะมีคำเตือนจากภาครัฐ แต่เจ้าของฟาร์มต่าง ๆ ที่ยังเปิดให้มีกิจกรรม “กอดวัว” ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของทั้งฝูงสัตว์และสำหรับผู้มาเยือน

• ที่มา: รอยเตอร์