ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน เดินทางเยือนสถานที่เกิดเหตุอาคาร 12 ชั้นถล่มที่เมืองเซิร์ฟไซด์ รัฐฟลอริดา ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่ภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยต้องหยุดชะงักตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี
ปธน.ไบเดน นั่งร่วมกับผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดซานติส สังกัดพรรครีพับลิกัน ขณะรับฟังรายงานสรุปภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ยังสูญหายอีกมากกว่า 140 คน โดยผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องร่วมมือกันในภารกิจแห่งความเป็นความตายนี้”
ทางด้าน แดเนียลลา เลอวีน คาวา นายกเทศมนตรีเขตปกครองไมอามี-เดด เคาน์ตี แถลงข่าวในวันพฤหัสบดี อธิบายเหตุผลของการระงับปฏิบัติการค้นหาชั่วคราวว่า เป็นเพราะความกังวลเรื่องโครงอาคารซึ่งอาจก่ออันตรายให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ และจะเริ่มเดินหน้าภารกิจดังกล่าวต่อเมื่อพบว่ามีความปลอดภัยแล้ว
เจ้าหน้าที่ระบุว่า จนถึงขณะนี้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 18 ราย ขณะที่ยังสูญหายอีก 145 รายจากเหตุการณ์อาคารแชมเพลน ทาวเวอร์ เซาธ์ ขนาด 12 ชั้น 136 ห้อง ถล่มลงมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว
ทางด้านโฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี แถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนและภริยาจะเดินทางไปพบกับครอบครัวของผู้สูญเสียในเหตุการณ์นี้ รวมทั้งพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยที่เข้าร่วมในภารกิจค้นหาและช่วยเหลือตลอด 8 วันที่ผ่านมาด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินของรัฐฟลอริดากำลังติดตามลมที่กำลังก่อตัวขึ้นและอาจกลายเป็นพายุโซนร้อนที่คุกคามภารกิจกู้ภัยบริเวณชายหาดเซิร์ฟไซด์ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดซานติส กล่าวว่า ทางการกำลังประเมินผลกระทบจากพายุลูกนี้
ถล่มก่อนการปรับปรุงหลายล้านดอลลาร์
เมื่อวันเสาร์ สื่อนิวยอร์กไทมส์ เปิดเผยว่า รายงานการตรวจสอบด้านวิศวกรรมเมื่อ 3 ปีก่อน ระบุว่า อาคารคอนโดมิเนียมฝั่งใต้ที่ถล่มลงมานั้นมีความเสียหายที่โครงสร้างบริเวณฐานคอนกรีตใต้ชั้นที่เป็นสระว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังพบรอยแตกตามกำแพงหลายจุด รวมทั้งบริเวณชั้นใต้ดินซึ่งเป็นที่จอดรถของผู้พักอาศัยด้วย
นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า อาคารแห่งนี้กำลังจะมีโครงการซ่อมแซมปรับปรุงมูลค่าหลายล้านดอลลาร์เร็ว ๆ นี้ แต่รายงานมิได้แสดงหลักฐานว่าอาคารดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะถล่มลงมาแต่อย่างใด
ขณะที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานอ้างการสำรวจเมื่อปีที่แล้วว่า อาคารแห่งนี้ก่อสร้างบนพื้นที่ชุ่มน้ำในบริเวณชายหาดไมอามีซึ่งกำลังยุบตัวลงอย่างช้า ๆ ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 แต่มิได้บ่งชี้ว่าลักษณะทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวเป็นปัจจัยให้เกิดเหตุอาคารถล่มนี้หรือไม่