เจ้าหน้าที่กู้ภัยรัฐฟลอริดา พบศพผู้เสียชีวิตรายที่ 5 จากเหตุการณ์อาคารคอนโดมิเนียม12 ชั้นถล่มในรัฐฟลอริดา ในขณะที่ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้พักอาศัยอีก 156 คน ตามรายงานของนายกเทศมนตรีของเขตปกครองไมอามี-เดด เคาน์ตี้
แดเนียลลา เลอวีน คารา นายกเทศมนตรีหญิงของไมอามี-เดด เคาน์ตี้ กล่าวว่า ภารกิจหลักในขณะนี้คือการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นและเทคโนโลยีตรวจจับคลื่นเสียงในภารกิจนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ไมอามี เฮอรัลด์ รายงานว่า นายกเทศมนตรีหญิง เลอวีน คารา ได้สั่งให้มีการตรวจสอบอาคารสูงเกิน 5 ชั้นทุกแห่งในเขตปกครองนี้ที่มีอายุเกิน 40 ปี รวมทั้งสั่งให้ตรวจสอบประวัติการก่อสร้างของอาคารแชมเพลนทาวเวอร์ (Champlain Towers) โดยเฉพาะอาคารฝั่งเหนือซึ่งเป็นอาคารแฝดที่สร้างขึ้นในปีเดียวกันกับอาคารฝั่งใต้ที่ถล่มลงมาเมื่อวันพฤหัสบดีด้วย
เมื่อวันเสาร์ สื่อนิวยอร์กไทมส์ เปิดเผยว่า รายงานการตรวจสอบด้านวิศวะกรรมเมื่อ 3 ปีก่อน ระบุว่า อาคารคอนโดมิเนียมฝั่งใต้ที่ถล่มลงมานั้นมีความเสียหายที่โครงสร้างบริเวณฐานคอนกรีตใต้ชั้นที่เป็นสระว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังพบรอยแตกตามกำแพงหลายจุด รวมทั้งบริเวณชั้นใต้ดินซึ่งเป็นที่จอดรถของผู้พักอาศัยด้วย
นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า อาคารแห่งนี้กำลังจะมีโครงการซ่อมแซมปรับปรุงมูลค่าหลายล้านดอลลาร์เร็ว ๆ นี้ แต่รายงานมิได้แสดงหลักฐานว่าอาคารดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะถล่มลงมาแต่อย่างใด
ขณะที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานอ้างการสำรวจเมื่อปีที่แล้วว่า อาคารแห่งนี้ก่อสร้างบนพื้นที่ชุ่มน้ำในบริเวณชายหาดไมอามีซึ่งกำลังยุบตัวลงอย่างช้า ๆ ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 แต่มิได้บ่งชี้ว่าลักษณะทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวเป็นปัจจัยให้เกิดเหตุอาคารถล่มนี้หรือไม่
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือด้านการค้นหาและบรรเทาทุกข์ที่อาคารที่เกิดเหตุได้ พร้อมทั้งได้ทวีตข้อความแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์นี้ด้วย
(ที่มา: สำนักข่าวเอพี และรอยเตอร์)