ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘ไบเดน’ ขอให้ ‘ปูติน’ ลดความตึงเครียดในยูเครน


In this image provided by The White House, President Joe Biden speaks with Russian President Vladimir Putin on the phone from his private residence in Wilmington, Del., Thursday, Dec. 30, 2021. (Adam Schultz/The White House via AP)
In this image provided by The White House, President Joe Biden speaks with Russian President Vladimir Putin on the phone from his private residence in Wilmington, Del., Thursday, Dec. 30, 2021. (Adam Schultz/The White House via AP)

ทำเนียบขาวรายงานว่า ในวันพฤหัสบดีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ “ขอให้รัสเซียลดความตึงเครียดกับยูเครนลง” ในการพูดคุยที่ใช้เวลา 50 นาทีกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์​ ปูติน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อาวุโสแห่งทำเนียบขาวกล่าวว่าผู้นำรัสเซียไม่ได้ให้คำสัญญาที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับกองทัพรัสเซียหลายหมื่นคนที่มาปักหลักอยู่บริเวณชายแดนยูเครน

โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากิ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ปธน.ไบเดน “แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสหรัฐฯ พันธมิตร รวมทั้งหุ้นส่วนของสหรัฐฯ จะตอบโต้อย่างเด็ดขาดและแน่นอนหากรัสเซียบุกรุกยูเครน”

นอกจากนี้โฆษกทำเนียบขาวยังกล่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯ และรัสเซียจะเข้าร่วมการประชุมสามเวทีในเดือนมกราคม ได้แก่ การหารือแบบทวิภาคีในวันที่ 10 มกราคม และการหารือร่วมกับหลายประเทศในที่ประชุมสภานาโต-รัสเซีย และองค์การแห่งความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป

เธอกล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่าการหารือเหล่านี้จะทำให้เกิดความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมได้ ก็ต่อเมื่ออยู่ในภาวะแวดล้อมที่ลดความตึงเครียดแทนที่จะเพิ่มความตึงเครียด

AP infographic Jo Biden and Vladimir Putin
AP infographic Jo Biden and Vladimir Putin

เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ ปธน.ปูตินได้เสริมกำลังกองทัพบริเวณชายแดนรัสเซียและยูเครน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ได้ประเมินจากภาพถ่ายดาวเทียมว่า รัสเซียมีกองกำลังมากถึง 100,000 นายในพื้นที่ ในขณะเดียวกัน ยูเครนก็ได้เพิ่มการป้องกันดินแดนของตนในอีกด้านหนึ่งของชายแดนเช่นกัน

ยูเครน ซึ่งเคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต ได้ใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาหาทางเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือองค์การนาโต (NATO) เช่นเดียวกับสหรัฐฯ และประเทศยุโรปตะวันตกอื่น ๆ ซึ่งรัสเซียได้ต่อต้านความพยายามดังกล่าวของยูเครนเรื่อยมา

ทำเนียบขาวได้กล่าวมาตลอดว่าหากรัสเซียบุกรุกยูเครน จะทำให้เกิด “ผลกระทบที่รุนแรง” ตามมาอย่างแน่นอน รวมทั้งการลงโทษทางเศรษฐกิจที่รุนแรง และการเพิ่มการสนับสนุนด้านความมั่นคงให้กับยูเครน

ที่กรุงมอสโคว์ ยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของ ปธน.ปูติน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าผู้นำรัสเซียเตือนผู้นำสหรัฐฯ ว่า คำขู่ของไบเดนที่จะใช้มาตรการการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียนั้น “จะเป็นความผิดพลาดอย่างมหาศาลและจะทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงติดตามมา”

ที่ผ่านมารัสเซียได้เรียกร้องให้นาโตปฏิเสธที่จะรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และให้นาโตลดกำลังทหารในบริเวณยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันออก

A Ukrainian soldier smokes at the line of separation from pro-Russian rebels, Donetsk region, Ukraine, Dec 30, 2021. Presidents Joe Biden and Vladimir Putin spoke by phone on Thursday about the Russian troop buildup near Ukraine.
A Ukrainian soldier smokes at the line of separation from pro-Russian rebels, Donetsk region, Ukraine, Dec 30, 2021. Presidents Joe Biden and Vladimir Putin spoke by phone on Thursday about the Russian troop buildup near Ukraine.

การพูดคุยกันในวันพฤหัสบดีเป็นการพูดคุยโดยตรงครั้งที่สองของผู้นำทั้งสองประเทศ ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งลีออน แอรอน นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน American Enterprise Institute กล่าวกับวีโอเอว่า นี่เป็นครั้งที่แปดที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้พบปะกันในเวลาเพียงหนึ่งปี ซึ่งเขามองว่าเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย รวมทั้งสหรัฐฯและสหภาพโซเวียต

ถึงแม้ว่านักวิเคราะห์จะมองว่า ปธน.ปูติน ไม่น่าจะบุกรุกเข้ายูเครน แต่พวกเขาแสดงความกังวลว่าการที่มีกองกำลังหลายหมื่นนายที่พร้อมรบในบริเวณชายแดนอาจจะเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามได้ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม

ด้าน วลาดิเมียร์ เซเลนซกี ประธานาธิบดียูเครน ทวีตในวันพุธว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ได้ให้คำสัญญาอย่างหนักแน่นว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย

นักวิเคราะห์ต่างกำลังจับตาดูว่าผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซียจะสามารถพบกันครึ่งทางเพื่อประณีประนอมกันได้หรือไม่ ลีออน แอรอน นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน American Enterprise Institute แสดงความเห็นไปในทางเดียวกับนักวิเคราะห์คนอื่น ๆ ว่า ปธน.ปูติน นั้นกำลังวางท่า เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในอีกสองปีข้างหน้า

เขามองว่า ปธน.ปูติน ประสบความสำเร็จในการสร้างภาวะฉุกเฉิน ทำให้เห็นว่าเขากำลังจะเริ่มทำสงคราม และกำลังจะรุกรานยูเครน ซึ่งทำให้ทำเนียบขาวหลงเชื่อและพลอยเต้นไปด้วย ทั้ง ๆ ที่เขามองว่าผู้นำรัสเซียไม่ได้ต้องการบุกรุกยูเครนแต่อย่างใด เพียงแต่กำลังสร้างคะแนนนิยมในประเทศ ซึ่ง ปธน.ปูตินจะทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงการเลือกตั้งในปี ค.ศ.2024

(ข้อมูลส่วนหนึ่งได้มาจากรายงานของ Agence France-Presse)

XS
SM
MD
LG