ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัฐบาลไบเดนไม่ต่ออายุคำสั่งห้ามการออกวีซ่าทำงานของอดีตปธน.ทรัมป์


 Biden delivers remarks on the Department of Labor's March jobs report
Biden delivers remarks on the Department of Labor's March jobs report

รายงานข่าวจากทำเนียบข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะไม่ต่ออายุคำสั่งห้ามออกวีซ่าทำงาน ที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ บังคับใช้และต่ออายุไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่จะหมดอายุลงในวันพุธหน้านี้แล้ว

สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานโดยแหล่งข่าวภายในทำเนียบขาวที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ว่า การตัดสินใจที่จะไม่ต่ออายุคำสั่งดังกล่าวนั้น ทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่คัดค้านนโยบายนี้ของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการขนาดใหญ่จาก ซิลิคอน แวลลีย์ และบริษัทผู้ให้บริการไอทีชั้นนำของอินเดีย รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง หลังจากพยายามกดดันรัฐบาลของปธน.ไบเดน ให้ยกเลิกคำสั่งห้ามออกวีซ่าทำงานตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่บริหารประเทศ ด้วยเหตุผลว่า คำสั่งห้ามนี้ส่งผลเสียให้กับบริษัทสัญชาติอเมริกันอย่างมาก

ทั้งนี้ คำสั่งห้ามออกวีซ่าของอดีตปธน.ทรัมป์ ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว มีผลโดยตรงกับการออกวีซ่าประเภท H-1B ที่บริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายใช้เพื่อจ้างนักเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ และวิศวกรที่เกี่ยวข้องจากต่างประเทศ

หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ตั้งแต่คำสั่งห้ามออกวีซ่า H-1B ถูกบังคับใช้มา บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเลือกที่จะไม่จ้างงานใหม่ แต่ทำการจ้างพนักงานที่ต้องการให้ทำงานจากประเทศของตนมาแทน

รายงานข่าวจากทั้งสองสื่อ ระบุเหมือนกันว่า ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนการไม่ต่อคำสั่งดังกล่าว

บลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า รัฐบาลชุดปธน.ไบเดน กำลังทบทวนคำสั่งจำกัดการออกวีซ่าสำหรับแรงงานเกษตรต่างชาติที่มักจ้างเป็นฤดูกาล รวมทั้ง โอแพร์ หรือผู้ช่วยงานบ้านที่เป็นชาวต่างชาติ และวีซ่าสำหรับการเข้ามาทำงานชั่วคราวอื่นๆ อยู่ แม้ว่าบรรดาสหภาพแรงงานและกลุ่มตัวแทนคนงานจะไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกคำสั่งนี้ เพราะการมีแรงงานต่างชาติเข้ามานั้นทำให้แรงงานอเมริกันเองเสียเปรียบ

และเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตปธน.ทรัมป์ ที่ห้ามออกกรีนการ์ดใหม่ไว้ โดยอ้างภาวการณ์ระบาดใหญ่ของโควิด-19 และเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการไม่อนุญาตรับผู้อพยพอย่างถูกกฎหมายเข้ามาเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า แม้หลังคำสั่งห้ามออกวีซ่าทำงานของอดีตปธน.ทรัมป์หมดอายุลง ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองเชื่อว่า แรงงานต่างชาติจะยังไม่สามารถเดินทางกลับมาทำงานในสหรัฐฯ ได้โดยง่าย เนื่องจากคำสั่งจำกัดการเดินทางเข้าประเทศเนื่องการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยังมีผลสำหรับการเดินทางมาจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ยุโรป บราซิล จีน อิหร่าน และแอฟริกาใต้ ขณะที่ แผนกงสุลของสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศเหล่านี้น่าจะไม่ยอมออกวีซ่าให้

ชาร์วารี ดาลัล-เธนี ผู้อำนวยการด้านรัฐสัมพันธ์ของสมาคมทนายความด้านงานตรวจคนเข้าเมืองของอเมริกา (American Immigration Lawyers Association) กล่าวว่า กระบวนการออกวีซ่าของสหรัฐฯ น่าจะใช้เวลานานกว่าปกติ เพราะแม้แต่ในประเทศที่สหรัฐฯ ไม่มีคำสั่งจำกัดการเดินทางนั้น แผนกกงสุลยังทำงานไม่เต็มทีมอยู่ และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งการมาแล้วว่า ให้ทำงานโดยให้ความสำคัญกับผู้ถือกรีนการ์ด มากกว่าวีซ่าทำงาน

ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ที่ต่อต้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่ผ่อนคลายลง และสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลชุดที่แล้วในการจำกัดแรงงานต่างชาติ ออกมาวิจารณ์ว่า การปล่อยให้คำสั่งของอดีตปธน.ทรัมป์หมดอายุลงเองนั้น จะส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อาร์เจ เฮาแมน ผู้อำนวยการด้านรัฐสัมพันธ์ของกลุ่ม Federation of American Immigration Reform ซึ่งเห็นชอบกับนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองแบบจำกัด กล่าวว่า “ปธน.ไบเดน มักเสนอภาพตนเองว่า เป็นคนที่มาจาก ‘ชนชั้นแรงงาน’ ผู้จะต่อสู้เพื่อแรงงานชาวอเมริกันถึงที่สุด แต่รัฐบาลชุดนี้กลับทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับนโยบายตรวจคนเข้าเมือง”

XS
SM
MD
LG