ประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีคำสั่งยกเลิกมาตรการระงับการดาวน์โหลดสื่อสังคมออนไลน์สัญชาติจีน ที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ริเริ่มไว้ พร้อมสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ทบทวนรายประเด็นความกังวลต่างๆ เกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นเหล่านั้นด้วย ตามรายงานของ สำนักข่าว รอยเตอร์
เมื่อเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว รัฐบาลภายใต้การนำโดยอดีตปธน.ทรัมป์ พยายามสกัดกั้นไม่ให้มีการเพิ่มผู้ใช้งานแอป TikTok และ WeChat รวมทั้งสั่งห้ามการทำธุรกรรมด้านเทคนิคต่างๆ สำหรับสื่อสังคมออนไลน์สัญชาติจีนทั้งสอง ก่อนที่จะมีคำสั่งชุดใหม่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ให้ดำเนินการแบบเดียวกันกับแอปพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ด้านเทคโนโลยีการเงินและการสื่อสารอีก 8 แห่ง ซึ่งรวมถึง Alipay ของ Ant Group รวมทั้ง QQ Wallet และ WeChat pay ของ Tencent Holdings ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาล ผู้พิพากษาได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้รัฐบาลดำเนินการดังว่าต่อ TikTok และ WeChat ซึ่งส่งผลให้แอปทั้งสองยังคงให้บริการต่อไปได้ ขณะที่คำสั่งห้ามการทำธุรกรรมที่ออกมาเมื่อเดือนมกราคมนั้นยังไม่ได้มีการบังคับใช้จนถึงบัดนี้
แต่แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันจะทำการยกเลิกคำสั่งทั้งหมดของอดีตปธน.ทรัมป์ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า กระบวนการตรวจสอบ TikTok เกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อปลายปี ค.ศ. 2019 ยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านข้อมูลผู้ใช้งานแอปนี้อยู่
การดำเนินการสั่งห้ามการใช้งาน TikTok และ WeChat โดยรัฐบาลชุดก่อนนั้นเกิดขึ้นด้วยเหตุผลความกังวลด้านความมั่นคงของประเทศ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานแอปเหล่านี้ในสหรัฐฯ ที่ทางการสหรัฐฯ กลัวว่าจะรั่วไหลไปสู่มือของรัฐบาลจีน แม้ว่า TikTok ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ อยู่กว่า 100 ล้านคนในเวลานี้ และ WeChat จะพยายามยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ มาโดยตลอดก็ตาม
และหลังจากศาลมีคำสั่งห้ามรัฐบาลปธน.ทรัมป์ไม่ไห้ดำเนินการห้ามการใช้งานแอปทั้งสอง รัฐบาลชุดที่แล้วยังคงเดินหน้าอุทธรณ์ต่อไป แต่หลังจากปธน.ไบเดน เข้ามาบริหารประเทศเมื่อเดือนมกราคม กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการอุทธรณ์ไว้ก่อน
ในส่วนของคำสั่งของปธน.ไบเดน ให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบความกังวลการใช้งานแอปเหล่านี้ รายงานข่าวระบุว่า ทางกระทรวงฯ ต้อง “ทำการประเมินอย่างต่อเนื่อง” สำหรับธุรกรรมใดๆ ก็ตามที่อาจนำมาซึ่ง “ความเสี่ยงของผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อความมั่นคง หรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ หรือเศรษฐกิจดิจิทัล ของสหรัฐฯ” โดยผู้นำสหรัฐฯ ยังสั่งให้กระทรวงฯ นำเสนอคำแนะนำเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลของสหรัฐฯ ที่บริษัทต่างชาติสามารถเข้าถึงได้ ภายใน 120 วันด้วย
และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ไบเดน ยังได้ลงตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่สั่งห้ามไม่ให้ธุรกิจหรือองค์กรใดๆ ในสหรัฐฯ ลงทุนในบริษัทสัญชาติจีนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกิจการด้านกลาโหมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสอดส่องตรวจตราต่างๆ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ออกมาแทนที่คำสั่งคล้ายๆ กันที่รัฐบาลอดีตปธน.ทรัมป์เคยพยายามออกมาใช้งานแต่ไม่สำเร็จเนื่องจากติดขัดประเด็นด้านกฎหมาย