รัฐบาลกรุงวอชิงตันกำลังพยายามป้องกันไม่ให้สงครามในตะวันอกกลางบานปลายหลังการปะทุขึ้นของการต่อสู้ในเลบานอน ขณะที่ประเทศในภูมิภาคดังกล่าวแสดงความกังวลถึงประเด็นนี้ เมื่ออิสราเอลยังแสดงให้เห็นถึงความเเน่วแน่ในการปฏิบัติการของตน
ล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เรียกร้องให้มีการหยุดยิง แต่ท่าทีดังกล่าวนำมาซึ่งข้อสงสัยที่ว่าจะได้รับการตอบรับมากเท่าใดจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในเวลานี้ ตะวันออกกลางกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่สงครามจะขยายวงมากขึ้นอีก หลังจากที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มเฮซบอลลาห์
ประธานาธิบดีไบเดนจึงแสดงท่าทีเมื่อวันจันทร์เพื่อให้เกิดการหยุดยิงโดยทันที
"ผมทราบเรื่องนี้ อาจจะมากกว่าที่คุณรู้ และผมจะรู้สึกสบายใจถ้าพวกเขาหยุด เราควรจะมีการหยุดยิงในตอนนี้" ไบเดนกล่าว
แต่คำถามตอนนี้คือเป้าหมายนี้จะสำเร็จได้ด้วยวิธีใด และสหรัฐฯ ในฐานะผู้ส่งอาวุธหลักให้กับอิสราเอลจะทำอย่างไรเพื่อยุติความรุนเเรง
โฆษกทำเนียบขาวคารีน ฌอง ปิแอร์ กล่าวย้ำว่า "นโยบายของเราไม่ได้เปลี่ยน มันยังไม่เปลี่ยน"
ส่วนตัวเเทนระดับผู้นำของเลบานอนระบุว่าพวกตนไม่เชื่อใจอิสราเอล
"รัฐบาลของเราทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเผชิญหน้ากับสงครามที่สร้างหายนะและเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเราไปที่สหประชาชาติเพื่อมองหาทางออกและเราพบกับผู้นำโลก แต่ฝ่ายศัตรูดำเนินการด้วยเจตนารมรณ์ที่มีเล่ห์เหลี่ยมและวางแผนนองเลือดเพิ่มขึ้นอีก" นายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ของเลบานอน นาจิบ มิคาติ กล่าว
ทางด้านอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แสดงท่าทีว่าจะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการในสงครามครั้งนี้
"เรากำลังอยู่ในสงครามเพื่อการดำรงอยู่ของเรา เราจะรวมกำลัง ร่วมมือร่วมกัน เเละเอาชนะศัตรูของเรา" เนทันยาฮูกล่าว
นอกจากสหรัฐฯ ฝรั่งเศสเรียกร้องให้คู่ขัดเเย้งยุติความรุนเเรงเช่นกัน
ฌอง โนเอล แบร์รอต รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า "มันยังคงมีความหวัง แต่เวลาเหลือน้อย ดังนั้นผมขอเรียกร้องให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการบุกภาคพื้นดินและดำเนินการหยุดยิง ผมเรียกร้องให้เฮซบอลลาห์ทำเช่นเดียวกัน และหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจนำไปสู่ความไร้เสถียรภาพของภูมิภาค"
นักวิเคราะห์กล่าวว่าไบเดนและพันธมิตรได้เสนอทางเลือกให้เนทันยาฮูเพื่อยุติความรุนเเรง โดยผลักดันให้เกิดการหยุดยิง 21 วันในเลบานอน และพยายามให้เกิดความตกลงปล่อยตัวประกันจากการควบคุมตัวของฮามาส
เจอรัลด์ เฟเออร์สตีน ผู้อำนวยการโครงการคาบสมุทรอาระเบียและนักวิจัยอาวุโสด้านการทูตแห่งสถาบัน Middle East Institute กล่าวว่า "น่าเสียเดีย ผมอยากบอกว่า ถ้าดูประวัติการพูดจากันของพวกเขาช่วงปีที่ผ่ามา ไม่ว่า (ไบเดน) จะแสดงเหตุผลอย่างไร ไม่ว่าเขาผลักดันอะไร เบนจามิน เนทันยาฮู จะทำตามเเนวทางของเขาเองและไม่สนองตอบต่อความกังวลหรือข้อเเนะนำของสหรัฐฯ"
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น