ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ร่วมประชุมกับวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต เพื่อหารือรายละเอียดการจัดสรรงบภายใต้ข้อตกลงงบประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่ตั้งเป้าจะนำไปใช้งานด้านบริการสาธารณสุขสำหรับชาวอเมริกันผู้สูงอายุ รวมทั้งโครงการเพื่อรับมือกับปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และโครงการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกัน
ก่อนการประชุมในวันพุธ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ประกาศว่า ข้อตกลงงบประมาณล่าสุดนี้จะเป็น “แผนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในหลายทศวรรษสำหรับชาวอเมริกันชนชั้นกลาง”
ในส่วนของที่มาของเงินทุนเพื่อดำเนินแผนการภายใต้ข้อตกลงงบประมาณใหม่นี้ รายงานข่าวชี้ว่า น่าจะมาจากการปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับผู้มีฐานะร่ำรวยและบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นแผนงานที่ปธน.ไบเดน ผลักดันอยู่ แต่สมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันคัดค้านมาโดยตลอด หลังจากสามารถประสบความสำเร็จในการปรับลดภาษีในสมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ดี การที่จะเดินหน้าแผนงานทั้งหมดนี้ วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตทั้ง 50 คนต้องออกเสียงสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ ผู้นำพรรคเดโมแครตต้องการจะให้มีการผ่านมติงบประมาณนี้ออกมาเพื่อเป็นกรอบการทำงานด้านกฎหมายก่อนที่สมาชิกสภาคองเกรสจะพักสมัยประชุมในเดือนสิงหาคม
และเนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันไม่น่าจะออกเสียงสนับสนุนมาตรการดังกล่าว มีการคาดการณ์ว่า พรรคเดโมแครตน่าจะเลือกใช้กระบวนการพิเศษที่มีชื่อว่า “การปรองดองด้านงบประมาณ” เพื่อช่วยให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านออกมาใช้งานได้เพียงได้รับการสนับสนุนจากเสียงข้างมาก แทนที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการ filibuster หรือการอภิปรายถ่วงเวลาเพื่อขวางการลงมติในร่างกฎหมาย ซึ่งสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยมักเลือกใช้
ทั้งนี้ มติงบประมาณจะช่วยให้พรรคเดโมแครตผ่านร่างกฎหมายงบค่าใช้จ่ายออกมาใช้งานได้ภายในปีนี้ หากเพียงได้รับเสียงข้างมากในสภาสนับสนุนเท่านั้น
นอกจากงบ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เดโมแครตและรีพับลิกันยังคงอยู่ในช่วงการเจรจารายละเอียดข้อเสนอการลงทุนโรงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ตัวแทนทั้งสองพรรคตกลงให้การสนับสนุนไปก่อนหน้านี้