รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน อนุญาตให้ยูคเรนใช้อาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้แล้ว จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ ตามรายงานของรอยเตอร์
การตัดสินใจคร้ังนี้ถือเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญของรัฐบาลอเมริกันในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ดำเนินมานานกว่าสองปี และมีขึ้นในขณะที่ปธน.ไบเดน จะพ้นจากตำแหน่งในอีกสองเดือน
ทางยูเครนเตรียมการโจมตีระยะไกลเข้าใส่รัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คาดว่าจะเริ่มด้วยการใช้จรวด ATACMS โจมตีใส่รัสเซีย ซึ่งมีระยะทำการราว 300 กม. อ้างอิงจากแหล่งข่าวดังกล่าว ขณะที่ทั้งทำเนียบขาวและรัฐบาลยูเครนปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
ที่ผ่านมา ปธน.ยูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี พยายามขอการรับรองจากสหรัฐฯ ให้ยูเครนสามารถใช้อาวุธระยะไกลโจมตีใส่รัสเซียได้ แต่ทางรัสเซียเตือนว่าหากมีการทำเช่นนั้นจริงจะถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งในสงครามนี้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนกังวลว่าการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของสงคราม โดยชาติพันธมิตรของยูเครนกังวลว่า การจัดส่งอาวุธพิสัยไกลให้ยูเครนใช้โจมตีรัสเซียนั้นอาจทำให้องค์การนาโต้ถูกลากเข้าไปในสงครามครั้งนี้โดยตรง และอาจนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่รัสเซียได้นำกำลังทหารจากเกาหลีเหนือมาเข้าร่วมในการรบที่แคว้นเคิร์สกของรัสเซีย ซึ่งสร้างความกังวลให้กับรัฐบาลอเมริกันและกรุงเคียฟ โดยทางยูเครนหวังว่าการอนุมัติของสหรัฐฯ ครั้งนี้จะช่วยให้กองทัพยูเครนต้านทานการรุกคืบของรัสเซียได้ และเพิ่มอำนาจการต่อรองให้กับยูเครนหากเกิดการเจรจาหยุดยิงขึ้นจริง ๆ
หลังการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. รัฐบาลไบเดนประกาศว่าจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ในการรับรองว่ายูเครนจะสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือสามารถมีจุดยืนที่เข้มแข็งในการต่อรองกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชนะการเลือกตั้ง จะปรับเปลี่ยนนโยบายของไบเดนครั้งนี้หรือไม่เมื่อเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. เนื่องจากทรัมป์คือผู้ที่ต่อต้านการส่งความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารให้แก่ยูเครนในช่วงที่ผ่านมา
ริชาร์ด เกรเนลล์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ โพสต์ข้อความทาง X ในวันอาทิตย์ว่า ไบเดน "กำลังยกระดับสงครามก่อนพ้นจากตำแหน่ง"
ขณะเดียวกัน รัสเซียระดมโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธใส่ยูเครนในวันอาทิตย์ วึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่าเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายเดือน มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนของยูเครน และมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก
ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธ 120 ลูก และโดรน 90 ลำ โจมตีทั่วยูเครน ซึ่งทางยูเครนสามารถยิงโดรนและขีปนาวุธตกลงมา 140 ลำ
การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นท่างกลางความกังวลว่า รัสเซียอาจมุ่งเป้าโจมตีแหล่งผลิตไฟฟ้าของยูเครนก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่รัสเซียมักนำมาใช้ตลอดช่วงสงครามที่ผานมา
- ที่มา: รอยเตอร์และเอพี