กลุ่มปกป้องสิทธิ์ชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์เรียกร้องให้บรรดาบริษัทข้ามชาติทั้งหลายที่ตกลงเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในปีหน้า คว่ำบาตรการจัดงานดังกล่าว ที่นักเคลื่อนไหวเรียกว่าเป็น Genocide Game หรือ “เกมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับการที่จีนข่มเหงรังแกชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลามในมณฑลซินเจียงด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสปอนเซอร์ใหญ่รายใดออกมาตอบรับคำเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ชาวอุยกูร์เลย
ผู้สังเกตการณ์รายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า สาเหตุที่บริษัททั้งหลายยังทำการใดๆ ตามเสียงเรียกร้องนี้ เป็นเพราะทั้งหมดยังไม่รู้สึกถึงแรงกดดันทางการเมือง ที่น่าจะยกระดับสูงขึ้นเมื่อกำหนดการแข่งขันใกล้เข้ามากว่านี้
แอนดรูว์ ซิมบัลลิสต์ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยสมิทธ์ (Smith College) ในรัฐแมสซาชูเซตส์ กล่าวว่า ในที่สุด ทุกบริษัทจะต้องทำการประเมินสถานการณ์การประท้วงทางการเมือง และสถานการณ์คว่ำบาตร แต่ในเวลานี้ ประเด็นเสียงเรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชนในจีนอยู่ในจุดที่กำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ถึง 20 กุมภาพันธ์ของปีหน้า
ศาสตราจารย์ ซิมบัลลิสต์ คาดว่า น่าจะมีเหตุ “ความอับอาย” และ “ข่าวพีอาร์ด้านลบ” เกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิ์ในมณฑลซินเจียง ฮ่องกง และทิเบต โดยรัฐบาลจีนออกมาเรื่อยๆ จากนี้ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายด้านงานประชาสัมพันธ์ครั้งใหญ่ต่อการที่จีนก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าภาพกิจกรรมครั้งนี้
เขากล่าวด้วยว่า แนวโน้มดังกล่าวอาจทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่เช่น โคคา-โคลา หรือ บริษัทที่อยู่ในโครงการ The Olympic Partners (TOP) ซึ่งเป็นธุรกิจชื่อดัง เช่น Airbnb ซัมซุง และ โอเมกา ตัดสินใจใช้อิทธิพลของตนดำเนินการบางอย่าง หรือทำการเจรจาต่อรองการให้การสนับสนุนของตนกับ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ซึ่งล้วนไม่น่าจะเป็นผลดีต่อชื่อเสียงการจัดงานของจีนเลย