รัฐบาลกรุงปักกิ่งแสดง “ความไม่พอใจอย่างรุนแรง” ในวันพฤหัสบดี ที่การสู้รบในเมียนมาส่งผลให้มีชาวจีนได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุว่า จะมีการ “ดำเนินมาตรการทุกอย่างที่จำเป็น” เพื่อปกป้องประชาชนของตน หลังมีรายงานการยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนเมียนมาเข้ามายังจีน
สื่อจีนหลายแห่งรายงานเมื่อวันพุธว่า กระสุนปืนใหญ่ที่ตกเข้ามายังเมืองหนานซาน ของมณฑลยูนนานซึ่งอยู่ติดกับเมียนมา เกิดระเบิดขึ้นและทำให้มีประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บ
สื่อเอเอฟพีรายงานว่า ยังไม่สามารถทำการตรวจสอบประเด็นนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่และยืนยันว่า ภาพที่มีการแชร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ในเรื่องนี้เป็นของจริงหรือไม่เช่นกัน
ในการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี ผู้สื่อข่าวสอบถาม หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ได้คำตอบว่า จีน “แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงที่ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธนั้นทำให้มีชาวจีนได้รับบาดเจ็บ” และว่า “จีนได้เรียกร้องไปอีกครั้งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในภาวะความขัดแย้งทางเหนือของเมียนมายุติความเป็นปรปักษ์ต่อกันทันทีและดำเนินมาตรการที่ทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์อันตรายขยายวงและสร้างความเสียหายต่อสันติและความสงบสุขตามแนวชายแดน”
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวด้วยว่า “จีนจะดำเนินมาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนของตน”
ทั้งนี้ หวังไม่ได้ระบุว่า มีประชาชนชาวจีนกี่คนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ในช่วงที่ผ่านมา พันธมิตรกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยได้เข้ายึดพื้นที่เมืองหลายแห่งและศูนย์กลางต่าง ๆ ตามแนวชายแดนเมียนมาที่มีความสำคัญด้านการค้ากับจีนสำเร็จ และนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทายทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องเผชิญ นับตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองมาจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อปี 2021
เมื่อเดือนที่แล้ว กรุงปักกิ่งเปิดเผยว่า ตนได้เป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างกองทัพเมียนมาและพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ และได้บรรลุข้อตกลง “การหยุดยิงชั่วคราว” แล้ว
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างสองฝ่ายในเมียนมายังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่รัฐฉาน และสัปดาห์ที่แล้ว สถานทูตจีนได้ขอให้ประชาชนของตนอพยพออกจากพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ติดกับเมียนมา เนื่องจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น