การพบกันระหว่างผู้นำของสองมหาอำนาจโลก ประธานาธิบดี โจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ เเละประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แน่นอนว่าจะเป็นข่าวใหญ่ ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันหลายเรื่องในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งคู่จะเจรจากันที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์เเลนด์ ในวันพุธ เป็นเวลา 4-5 ชั่วโมง และจะเป็นครั้งเเรกที่ประธานาธิบดีไบเดน พบกับประธานาธิบดีปูตินในฐานะผู้นำสหรัฐฯ
เเม้ว่าจะถูกจับตามองอย่างมาก แต่การประชุมสุดยอดกันครั้งนี้ ไม่น่าเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาเเละรัสเซียมากเท่าใดนัก ตามรายงานของรอยเตอร์
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบิน Air Force One พาหนะประจำตำแหน่งของผู้นำสหรัฐฯ ว่า ฝ่ายอเมริกันไม่คาดหวังว่าการหารือที่เจนีนาจะเกิดการสรุปประเด็นที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมายนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้นำทั้งสองจะใช้โอกาสนี้หยิบยกสถานการณ์ที่สำคัญมาพูดคุยกัน และหนึ่งในนั้นคือ กรณีการโจมตีด้วย “เเรนซัมเเวร์” หรือการใช้ซอฟต์แวร์เจาะระบบข้อมูลและเรียกค่าไถ่จากเหยื่อ
ที่ผ่านมาระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญของสหรัฐฯ ถูกโจมตีลักษณะนี้สองครั้ง และมีรายงานข่าวว่าผู้ก่อการเชื่อมโยงกับรัสเซีย
ประธานาธิบดีไบเดนน่าจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยกับประธานาธิบดีปูติน เเม้ว่าก่อนหน้านี้ปูติน กล่าวว่าการเชื่อมโยงรัสเซียกับเหตุการณ์ “เเรนซัมเเวร์” เป็นเรื่องน่าขัน
สิ่งที่ไบเดนต้องการทำคือกดดันให้เจ้าหน้าที่รัสเซียปราบปรามอาชญากรทางไซเบอร์ให้เเข็งขันขึ้น ส่วนปูตินเคยเเสดงท่าทีในเรื่องดังกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ถ้าจะให้มีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปสู่สหรัฐฯ รัสเซียก็ต้องการให้สหรัฐฯ ร่วมมือในรูปแบบเดียวกันด้วย
ทั้งนี้ในหัวข้อการแลกตัวนักโทษ ที่ไม่ใช่อาชญากร “เเรมซัมเเวร์” รัสเซียและสหรัฐฯ อาจหาข้อตกลงร่วมกันได้
ขณะนี้อดีตทหารนาวิกโยธินสรัฐฯที่ชื่อ พอล วีเเลนถูกรัสเซียจับกุมตัวอยู่ ในข้อหาสอดเเนม ส่วนทหารนาวิกโยธินอเมริกันอีกคนหนึ่งที่ชื่อ เทรเวอร์ รีด อยู่ในการควบคุมตัวของรัสเซียเช่นกัน เเต่ในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด
ครอบครัวของพวกเขาพยายามกดดันให้ทั้งสองได้รับการปล่อยตัว เมื่อทราบว่าประธานาธิบดีไบเดนจะได้พบกับประธานาธิบดีปูติน
สื่อ NBC News ถามผู้นำรัสเซียว่าจะพิจารณาเรื่องการเเลกตัวนักโทษหรือไม่ และเขากล่าวว่าจะพิจารณาเรื่องนี้ “อย่างเเน่นอน”
ขณะนี้สหรัฐฯ จับกุมตัวชาวรัสเซียคนสำคัญสองรายคือ นักค้าอาวุธ วิคเตอร์ บูท ซึ่งทางการไทยส่งตัวให้สหรัฐฯ หลังจากที่จับตัวเขาได้เมื่อ 13 ปีก่อน
ส่วนชาวรัสเซียอีกคนหนึ่งที่จำคุกอยู่ในอเมริกาคือ คอนสเเตนติน ยาโรเชนโก ซึ่งเป็นนักบินที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดเรื่องลักลอบนำโคเคนเข้าสหรัฐฯ
อีกประเด็นหนึ่งที่ไบเดนเเละปูตินอาจมีความคืบหน้าจากการหารือกันครั้งนี้คือสถานะของสำนักงานการทูต
ชนวนความขัดเเย้งที่นำไปสู่การเรียกตัวนักการทูตกลับครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ที่ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่าเขาเชื่อว่าประธานาธิบดีปูติน เป็น “ฆาตกร” หลังจากนั้นรัสเซียเรียกตัวกลับ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ
ต่อมาในเดือนเมษายนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซียเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน
และถ้าหลังจากการพบกันของปูตินและไบเดน นำมาซึ่งการให้เอกอัครราชทูตทั้งสองคนกลับไปทำหน้าที่ของตนดังเดิม ก็น่าจะส่งสัญญาณเชิงพวกว่าการเจรจาสุดยอดครั้งนี้ไม่ถึงกับทำให้ทั้งคู่กลับไปมือเปล่าเอาเสียเลย
ส่วนภารกิจที่ต้องใช้เวลาเเละเจรจาเพิ่มเติมในระยะยาว ยังคงประเด็นที่มีความซับซ้อนและยากที่จะสร้างความคืบหน้า ดังที่เคยเป็นมา เช่น เรื่องอิทธิพลของรัสเซียในเเคว้นไครเมียในยูเครน และด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอิสรภาพของอเล็กเซ นาวาลนี แกนนำฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีปูติน