ผู้ประกอบธุรกิจในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนมีมุมมองที่ต่างกันต่อคำว่า “กลับมาเปิดใหม่” หลังช่วงล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการเหล่านี้เห็นพ้องกันคือ อนาคตข้างหน้านั้นคาดเดาได้ยาก
ธุรกิจท้องถิ่นบางส่วนกลับมาดำเนินกิจการ บริษัทต่างชาติบางส่วนกลับมาเปิดทำการแบบระมัดระวัง ในขณะที่บริษัทต่างชาติหลายแห่งวางแผนถอนตัวจากจีน
นักเศรษฐศาสตร์ในนครเซี่ยงไฮ้ที่ขอสงวนนามรายหนึ่ง กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลางว่า เดือนมิถุนายนนี้จะเป็นเดือนสำคัญของผู้ประกอบธุรกิจทั้งหลายนับตั้งแต่มีการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ถึงภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของนครเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากยังไม่มีการกลับมาเปิดเมืองโดยสมบูรณ์ และหากทางการจีนพบผู้ติดเชื้ออีกครั้งและกลับมาใช้คำสั่งล็อกดาวน์ตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจช่นกัน
เคอร์ กิบส์ อดีตประธานหอการค้าอเมริกันในนครเซี่ยงไฮ้ ระบุเช่นกันว่า การคาดการณ์ทิศทางของนครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนระบาดได้ง่ายมาก
กิบส์กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลางว่า การกลับมาเปิดท่าเรือและศูนย์กลางการคมนาคมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 เช่นกัน ซึ่งจะต้องมีการจัดการที่ดี โดยเว็บไซต์ World Shipping ระบุว่า นครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เขายังหวังด้วยว่า ทางการนครเซี่ยงไฮ้จะเพิ่มการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์อีกครั้ง และเนื่องจากนครเซี่ยงไฮ้มีประชากรที่เป็นผู้อพยพจากทั่วทั้งจีนเพื่อมาประกอบอาชีพต่าง ๆ ดังนั้นหนึ่งในความท้าทายครั้งใหญ่ในการกลับมาเปิดเมืองครั้งนี้ก็คือ การรับประกันว่าผู้ที่เดินทางออกจากนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงล็อกดาวน์จะสามรถกลับมาทำงานได้ และผู้ที่ยังอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้จะสามารถเดินทางไปทำงานนอกเขตที่อยู่อาศัยของตนได้ด้วย
ทางด้านผู้ประกอบธุรกิจท้องถิ่นก็แสดงนานาทัศนะต่อการกลับมาเปิดเมืองครั้งนี้
จิน เล่ย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของบริษัท Shanghai Yuyuan Tourist Mart ซึ่งเป็นธุรกิจเครือขายปลีกที่ใหญ่ที่สุดของจีน ระบุว่า ร้านอาหารที่ได้รับความนิยมและตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าของบริษัท เปิดทำการในช่วงล็อกดาวน์โดยให้บริการสั่งกลับบ้านและส่งอาหารถึงบ้าน โดยแม้เขาจะไม่เปิดเผยว่า ทางบริษัทสูญเสียรายได้ไปเท่าใดในช่วงล็อกดาวน์ แต่เมื่อมีการยกเลิกการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พนักงานเกือบทั้งหมดของห้างก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ
ทางด้านหู เพิง ซีอีโอของ Shanghai Heyi Tech บริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยีชั้นสูง กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลางว่า ทางบริษัทกลับมาเปิดทำการหลังเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง โดยในช่วงล็อกดาวน์เป็นเวลาสองเดือนนั้น พนักงานของบริษัททำงานจากบ้านเพื่อจัดการยอดสั่งซื้อในระยะยาว โดยเธอหวังว่า ในช่วงที่พนักงานกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานนี้ จะมีการยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางในพื้นที่รอบนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อที่พนักงานของเธอจะได้พบปะกับลูกค้าด้วยตนเองได้
ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติเทศบาลของนครเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า มูลค่าของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการผลิตมากกว่า 20 ล้านหยวนต่อปีเมื่อเดือนเมษายน มีมูลค่า 128,600 ล้านหยวน หรือราว 664,300 ล้านบาท ซึ่งลดลง 60% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
ข้อมูลดังกล่าวยังระบุด้วยว่า บริษัทต่างชาติ ซึ่งรวมถึงธุรกิจจากฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงล็อกดาวน์นานสองเดือนนี้ โดยมีมูลค่าลดลง 70% เมื่อเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะกลับมาทำการผลิตอีกครั้งแล้วก็ตาม
ซู เยิน รองอธิบดีของสมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าไต้หวัน ระบุว่า บริษัทไต้หวันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสาร ซึ่งดำเนินการในบริเวณรอบนครเซี่ยงไฮ้ ยังคงเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยช่วงต้นเดือนนี้ มีคนงานเพียง 70% เท่านั้นที่รายงานตัวกลับมาทำงาน โดยเธอคาดการณ์ว่า บริษัทไต้หวันอาจต้องใช้เวลาสองสัปดาห์หลังนครเซี่ยงไฮ้กลับมาเปิดเมือง เพื่อกลับมาเปิดทำการและทำการผลิตได้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง
ซู เยิน กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลางว่า บรรดาบริษัทต่างกังวลว่าลูกค้าของตนอาจยกเลิกคำสั่งซื้อ หากทางบริษัทไม่มีโรงงานผลิตในมณฑลอื่นของจีน ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือไต้หวัน
เธอกล่าวว่า โรงงานของไต้หวันให้ความร่วมมือกับรัฐบาลจีนด้วยการตรวจเชื้อพนักงานทุกวันเพื่อป้องกันการระบาดครั้งใหม่ โดยพนักงานที่ถูกตรวจพบเชื้อจะถูกนำไปกักตัวนอกนครเซี่ยงไฮ้ หรือเข้ารับรับการรักษาเพื่อลดโอกาสระบาดและต้องปิดโรงงานอีกครั้ง
ดาร์สัน ชิว นักวิจัยของสถาบัน Taiwan Institute of Economic Research ในกรุงไทเป กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลางว่า การล็อกดาวน์ในนครเซี่ยงไฮ้เป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” สำหรับผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติหลายแห่งในนครเซี่ยงไฮ้ ทำให้พวกเขาสูญเสียความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีน เนื่องจากการล็อกดาวน์ทำให้การขนส่งสินค้าหยุดชะงัก
แม้แต่ในช่วงก่อนล็อกดาวน์ ผู้ประกอบการหลายเจ้าก็รู้สึกว่า จีนกำลังออกห่างจากการเป็นระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ทำให้พวกเขาประกอบกิจการในจีนได้ยากขึ้น
ชิว ยังกล่าวด้วยว่า แม้นครเซี่ยงไฮ้จะยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ แต่หากยังมีมาตรการควบคุมอื่น ๆ หรือมีการระบาดระลอกใหม่อีก ผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติก็อาจเร่งถอนตัวจากจีนเร็วขึ้น
ผลสำรวจที่เผยแพร่โดยหอการค้าสหภาพยุโรปและหอการค้าอเมริกันในกรุงปักกิ่งเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า นักธุรกิจจากยุโรป 23% กำลังพิจารณาเคลื่อนย้ายการลงทุนหรือแผนลงทุนในจีนไปยังตลาดอื่นภายในปีนี้ ในขณะที่นักธุรกิจอเมริกัน 52% ระบุว่า พวกเขาชะลอหรือลดการลงทุนในจีนออกไป
หอการค้าสหภาพยุโรปในจีนระบุกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลางว่า บริษัทยุโรปได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. โดยมีพนักงานกลับมาทำงานราว 50% โดยการกลับมาเปิดทำการนี้ล่าช้าออกไป เนื่องจากเหล่าผู้ประกอบธุรกิจต้องตรวจสอบว่า ระบบปรับอากาศสะอาด และมีการปฏิบัติตามนโยบายภายในอื่น ๆ
ผลการสำรวจโดยหอการค้าสหภาพยุโรปที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมระบุว่า สมาชิกของหอการค้า 58% ลดการตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2022 เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ โดยสมาชิกที่ได้รับผลกระทบกว่าหนึ่งในสามได้ลดเป้าหมายลงกว่า 15%
ทางหอการค้าหวังว่า ทางการเซี่ยงไฮ้จะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่นแผนปฏิบัติการ 50 นโยบายที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งมีทั้งการงดเว้นภาษี การช่วยแบ่งเบาค่าเช่า และเงินช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ
- ที่มา: วีโอเอ
