นครโฮจิมินห์ซิตี้ หรือกรุงไซ่ง่อนเดิมของเวียดนามซึ่งมีฐานะเป็นศูนย์กลางทางการเงินของประเทศมีแผนจะตั้งเขตส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งใหม่ ภายใต้สมญานาม “ซิลิคอน แวลลีย์” แห่งเวียดนาม แต่ยังมีความเหมือนที่แตกต่างกับดินแดนแห่งเทคโนโลยีจากแคลิฟอร์เนียในชื่อเดียวกัน
ทางฝ่ายบริหารกิจการภายในของนครโฮจิมินห์ มีแผนจะจัดพื้นที่ให้เป็นศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีแห่งใหม่ขึ้น โดยจะรวม 3 เขตพื้นที่ในนครโฮจิมินห์ ที่มีประชากรกว่า 1 ล้านคนอาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำไซง่อนเป็นหนึ่งโซนเดียว เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ ตามรายงานของสื่อเวียดนาม VnExpress International
โฉมหน้าของ “ซิลิคอน แวลลีย์” แห่งเวียดนาม ที่มีการผลักดันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 จะเน้นการทุ่มงบลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดึงดูดนักพัฒนาอินเตอร์เน็ตและซอฟต์แวร์ และเป็นอาคารสำนักงานของบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินราว 40 แห่ง เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคของนครโฮจิมินห์ และเป็นแหล่งรวมของธุรกิจสตาร์ทอัพของคนเวียดนามรุ่นใหม่ด้วย
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมารัฐบาลเวียดนามพยายามผลักดันประเทศให้หลุดพ้นจากการพึ่งพาการส่งออกสินค้ามูลค่าต่ำเป็นหลัก
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ เห็นว่า การสร้างอาณาจักร “ซิลิคอน แวลลีย์” แห่งเวียดนาม จะนำไปสู่การปฏิรูปโซนเทคโนโลยีของประเทศผ่านการทุ่มงบมหาศาลของรัฐเข้าไปช่วยดึงดูดบริษัทต่างชาติให้เข้ามาตั้งสำนักงานในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งต่างจากการสร้างชุมชนที่เริ่มต้นจากธุรกิจสตาร์ทอัพของคนหนุ่มสาวสายเทคโนโลยีของซิลิคอน แวลลีย์ในแคลิฟอร์เนีย ที่ขับเคลื่อนด้วยเทรนด์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมของภาคเอกชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ต้นตำรับของซิลิคอน แวลลีย์ เกิดขึ้นในนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1950 จากคณบดีของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ผลักดันให้คณาจารย์ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัย เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองขึ้นมา จนปัจจุบันอาณาจักรซิลิคอน แวลลีย์ เติบโตราว 275,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในสหรัฐอเมริกา