เวียดนามและฟิลิปปินส์บรรลุข้อตกลงในวันอังคาร เพิ่มความร่วมมือของกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งของสองประเทศเพื่อป้องกันภัยคุกคามในทะเลจีนใต้ โดยมีการประกาศความร่วมมือนี้ระหว่างที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เยือนเวียดนาม
ทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนในทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก
บันทึกความเข้าใจด้านความมั่นคงที่ทั้งสองฝ่ายร่วมลงนาม ระบุถึง "การป้องกันเหตุการณ์ในทะลจีนใต้" และ "ความร่วมมือทางทะเล" ของหน่วยงานรักษาการณ์ชายฝั่ง อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเวียดนามซึ่งเป็นผู้ประกาศความร่วมมือดังกล่าว
ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ กล่าวว่า ข้อตกลงความร่วมมือทางทะเลฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อจัดทำความเป็นหุ้นส่วนรอบด้านระหว่างกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งของเวียดนามและฟิลิปปินส์ ทั้งในด้านการพัฒนา ฝึกฝน และแลกเปลี่ยนทางการทหารระหว่างกันเพื่อเสริมศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในบริเวณนี้
"เราหนักแน่นในการป้องกันอธิปไตยของเรา ตลอดจนสิทธิเหนือพื้นที่ในการปกครองและขอบเขตอำนาจ ต่อการรุกรานและยั่วยุต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน เราพยายามหาทางจัดการประเด็นข้อพิพาทกับจีนผ่านการเจรจาหารืออย่างสันติในฐานะชาติที่มีอำนาจอธิปไตยเท่าเทียมกัน" ปธน.มาร์กอสกล่าว
ผู้นำฟิลิปปินส์เน้นย้ำด้วยว่า "เวียดนามคือหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของฟิลิปปินส์เพียงประเทศเดียว" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้านนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่า "สถานการณ์โลกและภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน ดังนั้นเราจำเป็นต้องสามัคคีและร่วมมือกันใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
อย่างไรก็ตาม เกิดความกังวลว่า ข้อตกลงนี้อาจสร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐบาลกรุงปักกิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดความประนีประนอมของประเทศอื่นที่อ้างกรรมสิทธิ์บนพื้นที่ทับซ้อนนี้
ที่ผ่านมา ทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างเคยปะทะกับเรือลาดตระเวนของจีนในทะเลจีนใต้มาแล้วหลายครั้ง แต่การเผชิญหน้ามีบ่อยครั้งขึ้นในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปะทะกันของเรือจีนกับเรือฟิลิปปินส์ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ถดถอยลง
นอกจากข้อตกลงด้านความมั่นคงแล้ว ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ ยังได้ทำข้อตกลงซื้อข้าวจากเวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งข้อตกลงอื่น ๆ ด้านการเกษตร และยังได้พบกับผู้บริหารของ วินกรุ๊ป (Vingroup) ซึ่งเป็นเครือธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนามด้วย
แถลงการณ์ของวินกรุ๊ป ระบุว่า ปธน.ฟิลิปปินส์ เสนอตัวช่วยเหลือเวียดนามในการผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ทางวินกรุ๊ปยังมีแผนเปิดเครือข่ายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า วินฟาสต์ (VinFast) ในฟิลิปปินส์เช่นกัน
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น