เกาหลีเหนือกำลังสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตใน 12 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งที่ สเปน ฮ่องกง และอีกหลายประเทศในแอฟริกา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 25% ของภารกิจด้านการทูตทั่วโลกของรัฐบาลกรุงเปียงยาง
กระทรวงการรวมประเทศของเกาหลีใต้ เชื่อว่า การสั่งปิดสถานทูตของเกาหลีเหนือครั้งนี้คือสัญญาณแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือกำลังประสบปัญหาในการสร้างรายได้จากต่างประเทศ สืบเนื่องจากมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่ชาติตะวันตกนำมาใช้
แชด โอแคร์โรล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ NK Pro ระบุในรายงานว่า การปิดสถานทูตดังกล่าวอาจเป็น "หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือในรอบหลายสิบปี" ซึ่งจะส่งผลต่อการเข้าร่วมทางการทูต การทำงานด้านมนุษยธรรมในเกาหลีเหนือ และความสามารถในการสร้างรายได้อย่างผิดกฎหมาย
รายงานชิ้นนี้คาดว่าจะมีสถานทูตเกาหลีเหนือถูกปิดมากกว่า 12 แห่ง เนื่องจากมาตรการลงโทษของตะวันตก และความอ่อนแอทางเศรษฐกิจและการเงินของรัฐบาลเปียงยาง
กระทรวงการรวมประเทศเกาหลีใต้มีแถลงการณ์ว่า คำสั่งทางการทูตล่าสุดของเกาหลีเหนือสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่มีเป้าหมายจำกัดเงินทุนสำหรับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
"นี่อาจเป็นสัญญาณของสถานการณ์ความยากลำบากทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับมิตรประเทศต่าง ๆ แม้ในระดับที่น้อยที่สุด" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับ 159 ประเทศ และมีสถานทูต 53 แห่งในต่างประเทศ รวมทั้งสถานกงสุล 3 แห่ง และสำนักงานผู้แทน 3 แห่ง ก่อนที่จะปิดสถานทูตในอังโกลาและอูกานดาไปเมื่อไม่นานนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น