ในวันจันทร์ อิสราเอลปูพรมโจมตีทางอากาศหลายร้อยครั้งใส่เป้าหมายในฉนวนกาซ่า ขณะที่ทหารอิสราเอลระดมกำลังขับไล่นักรบกลุ่มฮามาสที่ยังปักหลักต่อสู้ทางภาคใต้ของอิสราเอล ส่วนทางสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีชาวอเมริกันเสียชีวิตแล้ว 11 คนในเหตุรุนแรงครั้งล่าสุดในตะวันออกกลาง
การโจมตีของอิสราเอลทำลายบ้านเรือน อุโมงค์ โรงงานผลิตอาวุธ บ้านของสมาชิกกลุ่มฮามาส และศูนย์ข่าวกรองของฮามาส โดยทางการปาเลสไตน์ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 413 คน
ขณะนี้อิสราเอลได้ปิดล้อมฉนวนกาซ่าเอาไว้ทุกด้าน และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะตัดไฟฟ้าและสกัดการขนส่งเชื้อเพลิงและสินค้าต่าง ๆ เข้าไปในกาซ่าซึ่งมีประชากรราว 2 ล้านคน
โฆษกกองทัพอิสราเอล พันโทริชาร์ด เฮชท์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่ 7-8 แห่งของอิสราเอล และต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ในการขับไล่ผู้รุกรานซึ่งเร่ิมขึ้นเมื่อวันเสาร์
พันโทโจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอลอีกผู้หนึ่ง กล่าวว่า อิสราเอลได้เรียกระดมพลสำรอง 100,000 คนแล้ว "ภารกิจของเราคือการรับประกันว่าเมื่อสิ้นสุดสงครามครั้งนี้ กลุ่มฮามาสจะไม่มีศักยภาพทางทหารเพียงพอคุกคามประชาชนอิสราเอลได้อีก" และว่า "นอกจากนี้เราจะต้องแน่ใจว่ากลุ่มฮามาสจะไม่สามารถปกครองฉนวนกาซ่าได้อีกต่อไป"
พันโทคอนริคัส กล่าวว่า กลุ่มฮามาสได้โจมตีใส่ดินแดนของอิสราเอลพร้อมกับส่งนักรบราว 1,000 คนข้ามพรมแดนฉนวนกาซ่าเข้ามาในอิสราเอล สังหารประชาชนและทหารอิสราเอลราว 700 คน บาดเจ็บอีกมากกว่า 2,100 คน "ถือเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล"
ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เมทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวเรียกร้องให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในชาติ เขาประกาศว่า “ประชาชนชาวอิสราเอลที่รัก เราเริ่มแล้ว และผมขอย้ำ เราเพิ่งเริ่มต้นการถล่มฮามาสเท่านั้น”
“ภาพความพังพินาศและซากของที่มั่นของฮามาสในกาซ่า เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เราได้สังหารผู้ก่อการร้ายหลายร้อยคน เราจะไม่หยุดแค่นี้ ผมบอกเลยว่า ทุก ๆ ที่มีฮามาสใช้ปฏิบัติการ จะถูกทำให้เหลือเเต่ซาก”
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ มีแถลงการณ์ว่า พลเมืองอเมริกันถูกสังหารในอิสราเอล 9 คนในเหตุการณ์นี้ และมีอีกหลายคนที่ยังสูญหาย
"เราสามารถยืนยันได้ว่ามีพลเมืองสหรัฐฯ เสียชีวิต 9 คน และยังไม่ทราบชะตากรรมอีกหลายคน เรากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลเพื่อติดตามหาพวกเขา" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
นอกจากนี้ มีรายงานชาวต่างชาติจำนวนมากเสียชีวิตในอิสราเอลเช่นกัน รวมทั้งพลเมืองชาวอังกฤษ ฝรั่งเศส เนปาล ยูเครน และไทย
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ให้คำมั่นว่า "สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับอิสราเอลเพื่อรับรองว่าอิสราเอลจะสามารถปกป้องประชาชนและปลดปล่อยบรรดาตัวประกันให้เป็นอิสระได้"
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ยืนยันสนับสนุนด้านการทหารต่ออิสราเอลเช่นกัน โดยทางพเนตากอนได้จัดส่งอาวุธและกระสุนให้อิสราเอลแล้ว รวมทั้งสั่งการให้เรือบรรทุกเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้วด้วย
สหประชาชาติระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนมากกว่า 123,000 คนในฉนวนกาซ่าที่กลายเป็นคนไร้ถิ่นฐานหลังจากการต่อสู้ปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2007 เมื่อกลุ่มฮามาสขึ้นปกครองฉนวนกาซ่า ได้มีการก่อสงครามกับอิสราเอลมาแล้ว 4 ครั้ง
เมื่อวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีเเนทันยาฮูประกาศภาวะสงคราม และระบุถึง “การแก้แค้นครั้งใหญ่ให้กับวันอันชั่วร้ายนี้” พร้อมกล่าวเตือนด้วยว่า “สงครามนี้จะต้องใช้เวลา”
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายกลาโหมอิสราเอล ระบุว่า กลุ่มฮามาสได้ “เปิดประตูสู่อเวจี” ด้วยการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ก่อขึ้น
ขณะเดียวกัน มีสัญญาณความขัดแย้งขยายวงกว้างออกไปนอกฉนวนกาซ่า เมื่อกองทัพอิสราเอลปะทะกับกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ด้วยจรวดและปืนใหญ่บริเวณพรมแดนติดกับอิสราเอลเช่นกัน
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์