มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนในวันจันทร์ หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่เมืองครีวี ริห์ ทางใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กรุงเคียฟ
เซอร์ฮีย์ ลีซัก ผู้ว่าการเขตปกครองครีวี ริห์ ประกาศให้มีการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 วันในเมืองนี้ พร้อมเปิดเผยด้วยว่า ในกลุ่มเหยื่อผู้เสียชีวิตนั้นมีเด็กหญิงอายุ 10 ขวบพร้อมแม่ของเธอด้วย ขณะที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 75 คน ซึ่งเป็นเด็กอายุ 4-17 ปีอยู่ 6 คนด้วย
ลีซัก กล่าวด้วยว่า การโจมตีโดยขีปนาวุธของรัสเซียทำให้อาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งเสียหาย โดยผู้อยู่อาศัยเกือบ 150 คนสามารถหลบหนีออกมาได้ด้วยตนเอง และอีก 30 คนได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ปธน.เซเลนสกี เผยแพร่คลิปวิดีโอของอาคารต่าง ๆ ที่เสียหายจากการโจมตีและภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งหลาย ผ่านสื่อสังคมออนไลน พร้อมระบุว่า “เขตปกครองต่าง ๆ ของยูเครนกำลังถูกระดมยิงโดยผู้ยึดครองซึ่งยังคงเดินหน้าสร้างความหวาดกลัวให้กับเมืองและประชาชนผู้รักสันติต่อไป”
ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า “ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ศัตรูได้ดื้อด้านโจมตีเมือง ใจกลางเมือง ระดมยิงปืนใหญ่ใส่บ้านเรือนและทรัพย์สินของพลเรือน แต่การก่อการร้ายนี้จะไม่ทำให้เรากลัวหรือทำให้เราหมดใจ เรากำลังทำงานเพื่อช่วยผู้คนของเราอยู่”
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า โดรน 3 ลำของยูเครนบินเข้าใส่ใจกลางกรุงมอสโก พร้อมระบุว่า การโจมตีนี้คือ “ความพยายามก่อการร้ายโดยรัฐบาลเคียฟ”
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์โจมตีเมืองหลวงของรัสเซียครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ในรอบเดือน และครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของมอสโก ขณะที่ สงครามในยูเครนลากยาวมาถึงเดือนที่ 18 แล้ว
สำนักข่าว Tass ของรัฐบาลเครมลินระบุว่า โดรน 2 ลำนั้นพุ่งเข้าใส่ย่านการเงินของเมือง และทำให้อาคารระฟ้าแห่งหนึ่งเสียหาย รวมทั้งทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 รายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ สื่อ RIA-Novosti รายงานว่า ผู้ที่อยู่ในอาคารดังกล่าวเป็นสำนักงานหลายแห่งของรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว แต่ปธน.เซเลนสกี ระบุในการแถลงข่าวรายวันเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า สงครามนี้กำลังเคลื่อนตัวกลับเข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียอย่างช้า ๆ แล้ว “ไปยังฐานทัพทางทหารและศูนย์กลางเชิงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของรัสเซีย และนี่เป็นกระบวนการที่เป็นธรรมอย่างที่สุด ทั้งยังเป็นไปตามธรรมชาติและหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย”
การเจรจาสันติภาพ
ขณะเดียวกัน อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก เรียกร้องให้ สงคราม “อันไร้เหตุผล” ในยูเครนนี้จบลงได้แล้ว และขอให้การจัดการเจรจาสันติภาพที่ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้มีตัวแทนจากยูเครนและรัสเซียเข้าร่วมด้วย
ปธน.โลเปซ โอบราดอร์ กล่าวด้วยว่า เม็กซิโกจะเข้าร่วมการหารือนี้หากทั้งสองประเทศคู่กรณีเข้าร่วม
ที่ผ่านมา แม้ปธน.เม็กซิโกพยายามรักษาความเป็นกลางในประเด็นสงครามยูเครน-รัสเซียมาโดยตลอด ก็มีท่าทีสนับสนุนมติสำคัญ ๆ บางข้อของสหประชาชาติที่ประกาศต่อรัสเซีย แต่ก็ปฏิเสธที่จะส่งอาวุธไปช่วยยูเครนรบและไม่ยอมร่วมดำเนินมาตรการลงโทษต่อรัสเซีย
ทำเนียบเครมลินเปิดเผยในวันจันทร์ว่า ฝ่ายตนจะ “ติดตามดู” การประชุมนี้แต่เผยว่า ยังไม่เห็นว่า การหารือที่ว่าจะนำไปสู่การเจรจาสันติภาพกับยูเครนได้อย่างไร ขณะที่ อันดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การประชุมสุดยอดที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นเวทีให้ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทั้งหลายมาร่วมพูดคุย หลังมีการประชุมรอบแรกที่กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อเดือนมิถุนายนไป โดยไม่ได้เปิดเผยว่า การประชุมนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด
หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานก่อนหน้านี้ว่า การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม โดยจะมีประเทศเข้าร่วมถึง 30 ประเทศ ขณะที่ เอพีอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการระบุว่า สหรัฐฯ บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้จะส่งตัวแทนเข้าร่วมด้วย
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
