ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.เควิน เเมคคาร์ธีย์ เรียกร้องให้เพื่อนร่วมพรรครีพับลิกันในสภา สนับสนุนร่างกฎหมายที่เขาร่วมผลักดันกับฝ่ายเดโมเเครต เพื่อให้เพิ่มเพดานหนี้ ในความพยายามที่จะเลี่ยงไม่ให้รัฐบาลต้องผิดชำระหนี้ ซึ่งอาจส่งผลร้ายเเรงต่อเศรษฐกิจได้
การเรียกร้องนี้เกิดขึ้นขณะที่คณะกรรมาธิการที่ชื่อ Rules Committee ของสภาผู้เเทนราษฎรมีกำหนดพิจารณาร่างกฎหมายความยาว 99 หน้าฉบับนี้ ในช่วงบ่ายของวันอังคาร
ขั้นตอนดังกล่าวเป็นกระบวนการก่อนนำกฎหมายมาพิจารณาเต็มองค์ประชุมของสภาผู้เเทนราษฎร ซึ่งมีพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่
ทั้งฝ่ายประธานาธิบดีโจ ไบเดนของเดโมเเครต และประธานสภาผู้เเทนฯ เควิน แมคคาร์ธีย์แห่งรีพับลิกัน คาดว่าร่างกฎหมายนี้จะได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงที่มากพอ ก่อนวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เคยระบุว่าเป็นเส้นตายที่สหรัฐฯ อาจผิดชะระหนี้ก้อนเเรกหากว่าไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้
แม้ว่า เเมคคาร์ธีย์กล่าวว่าความตกลงนี้ดำเนินไปตามเเนวทางอนุรักษ์นิยม แต่ ส.ส.แนวคิดอนุกรักษ์นิยมบางคนของพรรคเช่น ชิพ รอย และราล์ฟ นอร์เเมน ซึ่งอยู่ในคณะกรรมาธิการ Rules Committee ยังคงสงวนท่าทีว่าจะยกมือสนับสนุนร่างฉบับดังกล่าวหรือไม่
หากว่าร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ผ่านการลงมติจากคณะกรรมาธิการดังกล่าว จะมีการโหวตในที่ประชุมใหญ่ของสภาผู้เเทนฯ ในวันพุธ ก่อนเดินเรื่องต่อไปยังวุฒิสภา
รอยเตอร์รายงานว่าการลงมติของวุฒิสภาอาจเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ หากว่าวุฒิสมาชิกบางคนพยายามทำให้กระบวนการยืดเยื้อ
สัญญาณดังกล่าวเห็นได้จาก ส.ว. ไมค์ ลี ที่กล่าวว่ามีบางเเง่มุมของร่างกฎหมายนี้ที่อาจทำให้ตนเองไม่ยกมือสนับสนุน
สำหรับเนื้อหาของร่างกฎหมายนี้ จะเปิดทางให้ปรับเพดานหนี้ได้ไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค. 2025 นั่นหมายความว่า จะเลยช่วงเวลาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย.ปีหน้า
กฎหมายนี้จะตั้งเพดานต่อการใช้จ่ายภาครัฐบางประเภทเป็นเวลาสองปี และเร่งกระบวนการทำงานเกี่ยวกับโครงการพลังงาน รวมถึงดึงเงินกลับมาจากกองทุนช่วยเหลือจากรัฐช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่ได้ใช้
นอกจากนั้น จะกำหนดการเเสดงหลักฐานเรื่องสถานะการทำงานสำหรับผู้ยากไร้บางกลุ่มที่ต้องการรับความช่วยเหลือด้านสวัสดิการอาหาร
อีกประการหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปตามเงื่อนไขของฝ่ายอนุรักษ์นิยม จะมีการดึงเงินจากหน่วยงานเก็บภาษีหลักของสหรัฐฯ หรือ Internal Revenue Service อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวกล่าวว่าเงื่อนไขนี้จะไม่นำไปสู่การลดทอนอำนาจบังคับใช้กฎหมายเรื่องภาษี
ฝ่ายของประธานาธิบดีไบเดน อาจกล่าวได้ว่ามีบางส่วนที่กฎหมายนี้เอื้อต่อฝั่งเดโมเเครต เช่น จะไม่มีการตัดงบประมาณของโครงการสำคัญที่ไบเดนเป็นคนริเริ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และกฎหมายเกี่ยวกับพลังงานสะอาดก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการเจรจากับรีพับลิกันในครั้งนี้
ภายใต้ร่างกฎหมายเพดานหนี้ดังกล่าว รัฐสามารถประหยัดเงินได้จากการตั้งเพดานการใช้จ่ายในสวัสดิการที่อยู่อาศัย การศึกษา และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ส่วนงบกลาโหมยังสามารถเพิ่มขึ้นได้ในอีกสองปีจากนี้
ที่ผ่านมาทางตันที่เกิดขึ้นเรื่องการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ ทำให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินบางแห่งขู่ว่าอาจปรับลดระดับความน่าเชื่อถือต่อหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลอย่างรุนเเรงต่อระบบการเงินโลก
- ที่มา: รอยเตอร์