ผลการวิจัยล่าสุดเปิดเผยว่า ภาวะขาดแคลนซัพพลายจากทั่วโลกเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และความต้องการที่พุ่งสูงจากสงครามในยูเครน ทำให้การเติบโตของธุรกิจซื้อขายอาวุธสะดุดในปีที่ผ่านมา
รายงานโดย Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI) ที่ได้รับการเผยแพร่ในวันจันทร์ ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ 100 แห่งของโลกขายอาวุธและบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมกันเป็นมูลค่า 592,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า 1.9% แต่อัตราการขยายตัวนี้ต่ำกว่าที่ควรอย่างมาก เนื่องจากผลกระทบรุนแรงจากปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน
นาน เทียน นักวิจัยอาวุโสของ SIPRI บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า “ผลกระทบที่ลากยาวจากการระบาดใหญ่เป็นวงกว้างเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นในบรรดาบริษัทค้าอาวุธแล้ว”
เทียน กล่าวด้วยว่า ภาวะติดขัดที่เกิดจากการขาดแคลนแรงงานและความยากลำบากในการจัดหาวัตถุดิบส่งผลให้ “ความสามารถในการผลิตระบบอาวุธและนำส่งให้ทันเวลานั้นด้อยลง” และว่า “สิ่งที่เราเห็นในตอนนี้ ก็คือการปรับขึ้นที่ชะลอตัวลงของตัวเลขการขายอาวุธกว่าที่หลายคนคาดหวังไว้สำหรับปี 2021”
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การที่รัสเซียส่งกองทัพรุกรานยูเครนน่าจะทำให้ปัญหาด้านซัพพลายของอาวุธหนักหน่วงขึ้น “เพราะรัสเซียคือผู้จัดหารายหลักของวัตถุดิบสำหรับการผลิตอาวุธ” ขณะที่ สงครามดังกล่าวที่ดำเนินมากว่า 9 เดือนนี้กลับทำให้ความต้องการอาวุธพุ่งสูงขึ้น
ในส่วนผู้นำธุรกิจอาวุธในตลาดโลกนั้น บริษัทสัญชาติอเมริกันยังคงครองตำแหน่งในแถวหน้าอยู่ด้วยยอดขายทั่วโลกในปีที่แล้วถึง 299,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ สหรัฐฯ เป็นเพียงภูมิภาคเดียวที่มียอดขายลดลงในปีที่แล้ว ด้วยการหดตัว 0.9% เมื่อเทียบกับตัวเลขของปี 2020
ขณะเดียวกัน ยอดขายของบริษัทอาวุธที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 8 แห่งของจีนเพิ่มขึ้น 6.3% มาที่ยอดรวม 109,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ตามรายงานของ SIPRI
- ที่มา: เอเอฟพี
