รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าแผงโซลาร์เซลล์จากบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์รายใหญ่ของจีน หลังจากที่มีการตรวจสอบเรื่องนี้นานหลายเดือนและพบว่า บริษัทจีนเหล่านั้นพยายามหลบเลี่ยงการถูกเก็บภาษีจากสหรัฐฯ ด้วยการย้ายไปผลิตในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ รวมทั้งไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศการตัดสินใจในเบื้องต้นดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดในความพยายามของบรรดาผู้ผลิตแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ ที่ต้องการสกัดการไหลทะลักเข้ามาของสินค้าราคาถูกจากเอเชียที่พวกเขามองว่า แผงโซลาร์ที่ผลิตในอเมริกาไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยการตรวจสอบที่พบว่า บริษัท BYD Co Ltd, บริษัท Trina Solar Co Ltd, บริษัท Longi Green Energy Technology Co Ltd และบริษัท Canadian Solar Inc พยายามหลบเลี่ยงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่นำมาใช้กับแผงโซลาร์ของจีนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
แต่บริษัท New East Solar, บริษัท Hanwha Q CELLS, บริษัท Jinko Solar และบริษัท Boviet Solar ไม่พบว่ามีการหลบเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด ส่วนบริษัทอื่น ๆ นั้นสามารถแสดงหลักฐานหรือการรับรองว่าพวกเขาไม่ได้หลบเลี่ยงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เช่นกัน
ทั้งนี้ คำตัดสินขั้นสุดท้ายคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะมีการสรุปว่าบริษัทเหล่านี้จะถูกเก็บภาษีเพิ่มสำหรับสินค้าที่ผลิตในมาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย หรือไม่ โดยอาจถูกเก็บภาษีในอัตราเดียวกับที่สหรัฐฯ ใช้อยู่กับสินค้าที่ผลิตในประเทศจีนโดยตรงซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับไม่ถึง 35%
ปัจจุบัน แผงโซลาร์ราว 80% ที่อยู่ในตลาดสหรัฐฯ นำเข้าจาก 4 ประเทศอาเซียนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะยังไม่มีผลจนกระทั่งปีค.ศ. 2024 ภายใต้เงื่อนไขการผ่อนผันเวลาที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามไว้เมื่อต้นปีนี้ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้อุตสาหกรรมผลิตแผงโซลาร์ของสหรัฐฯ สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาในช่วงสองปีจากนี้
บริษัท Auxin Solar ของสหรัฐฯ แสดงความยินดีคำประกาศของกระทรวงพาณิชย์ หลังจากเป็นผู้ยื่นคำร้องเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ โดย มามัน ราชีด ซีอีโอของบริษัท มีแถลงการณ์ว่า "การสืบสวนของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันข้อกล่าวหาของบริษัท Auxin ว่ามีการคดโกงจากบริษัทจีนจริง"
ในทางกลับกัน การตัดสินใจนี้ถูกมองว่าอาจเป็นอันตรายต่อความพยายามต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และถือเป็นข่าวร้ายสำหรับบรรดาผู้ลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการในสหรัฐฯ ที่พึ่งพาวัสดุราคาถูกกว่า
อบิเกล รอสส์ ฮอปเปอร์ ประธานสมาคมผู้ค้าแผงโซลาร์ Solar Energy Industries Association (SEIA) มีคำแถลงว่า "ข่าวดีอย่างเดียวในเรื่องนี้คือ กระทรวงพาณิชย์มิได้ฟันธงเอาผิดกับสินค้าแผงโซลาร์นำเข้าทั้งหมดจากทั้ง 4 ประเทศอาเซียน"
ทั้งนี้ รัฐบาลไบเดนมีเป้าหมายยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้าภายในปีค.ศ. 2035 ซึ่งหมายความว่า อเมริกาต้องพึ่งพาพลังงานจากแสงอาทิตย์ราว 40% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด จากระดับเพียง 3% ในปัจจุบัน
- ที่มา: รอยเตอร์
