สื่อหลายสำนักรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนมีแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการจัดทำข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน พร้อมหาทางจัดการความกังวลด้านความมั่นคงของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องท่ามกลางความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ในขณะที่สื่อในประเทศจีนยังคงวิพากษ์โจมตีสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอย่างรุนแรงว่าเป็นตัวการที่ทำให้รัสเซียต้องบุกรุกยูเครน
นักวิเคราะห์เชื่อว่า เวลานี้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังอยู่ในช่วง 'กลืนไม่เข้าคายไม่ออก' หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศส่งกำลังพลสำรองไปยังยูเครน รวมทั้งมีคำขู่เรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสะเทือนจุดยืนความเป็น "พันธมิตรแบบไร้ข้อจำกัด" ของสองประเทศ
เรื่องนี้สะท้อนออกมาจากการที่จีนเรียกร้องให้รัสเซียและยูเครนเริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพ ในขณะที่ยังคงปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานของรัสเซีย
เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ระหว่างการประชุมนอกรอบของที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก โดยระบุว่า จีนจะยังคงยึดมั่นกับจุดยืนเดิมในสงครามยูเครน
ก่อนหน้านี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง เหวินปิน กล่าวเรียกร้องให้เริ่มการจัดทำข้อตกลงสันติภาพในยูเครนเพื่อจัดการความกังวลด้านความมั่นคง โดยขอให้ประชาคมโลกยื่นมือเข้าช่วย
และเมื่อถูกถามถึงเรื่องที่เขตปกครอง 4 แห่งในยูเครนพยายามจัดการลงประชามติเพื่อแยกตัวออกจากยูเครน โฆษกจีนผู้นี้ตอบว่า เราเชื่อว่าทุกประเทศควรได้รับความเคารพในบูรณภาพเหนือดินแดนของพวกเขา ตามหลักการของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่อุซเบกิสถาน ปธน.ปูติน พบปะกับปธน.สี เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุขึ้น โดยผู้นำรัสเซียยกย่องผู้นำจีนว่า วางตัวได้อย่าง "สมดุล" ในช่วงวิกฤติเช่นนี้
นักวิเคราะห์มองท่าทีล่าสุดของจีน
สตีฟ ชาง ผู้อำนวยการสถาบันจีนแห่ง SOAS University of London ให้ความเห็นว่า "แรงผลักดันนโยบายต่างประเทศของปธน.สี จิ้นผิง คือจีนต้องมาก่อน" และว่า "สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้นำจีนคือ ปธน.ปูติน จะไม่พ่ายแพ้หรือสร้างความเสียหายในสงครามยูเครนจนส่งผลสะเทือนเสียหายมาถึงจีนด้วย โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ"
ทางด้าน หยวน จิงตง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ University of Sydney ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของจีน เชื่อว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างระมัดระวังต่อไป โดยจะหลีกเลี่ยงการวิจารณ์รัสเซีย และไม่แสดงความสงสารเห็นใจยูเครน แต่ก็จะไม่สนับสนุนการกระทำของปูตินอย่างโจ่งแจ้งเช่นกัน
"ณ จุดนี้ ดูเหมือนทางเลือกของจีนคือการยืนอยู่วงนอกและไม่เข้าร่วมในความยุ่งเหยิงสับสนที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างอันตรายครั้งนี้" หยวน จิงตง กล่าว
เมื่อวันพุธ หู สีจิน อดีตหัวหน้าบรรณาธิการของสื่อ Global Times ของทางการจีน เขียนบทความแสดงความคิดเห็น ระบุว่า "สหรัฐฯ และชาติตะวันตก ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเอาชนะรัสเซียให้ได้... ในขณะที่ปูตินก็จะไม่หันหลังกลับจนกว่าจะได้รับชัยชนะ"
"จึงอาจกล่าวได้ว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ได้กลายเป็นสถานการณ์สำคัญอย่างยิ่งที่สามารถตัดสินความเป็นความตายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้" อดีตหัวหน้าบรรณาธิการของสื่อ Global Times ระบุ
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ปูติน ประกาศว่าจะยกระดับสงคราม และเตรียมส่งกำลังพลสำรอง 300,000 คนไปสมทบในยูเครน หลังจากที่มีรายงานว่ารัสเซียกำลังพ่ายแพ้ในสมรภูมิคาร์คิฟทางภาคตะวันออกของยูเครน
หู สีจิน เรียกร้องให้เกิดกระบวนการสันติภาพขึ้นโดยเร็ว และเตือนด้วยว่า "รัสเซียและองค์การนาโต้ ควรหลีกเลี่ยงการข่มขู่กันและกัน เพราะอาจลุกลามไปถึงจุดที่ทั้งสองฝ่ายตกลงใช้ทุกวิถีทางที่มีอยู่เพื่อเอาชนะบนสมรภูมิ" พร้อมทั้งชี้ถึงอาวุธนิวเคลียร์ที่รัสเซียอาจนำมาใช้เมื่อสถานการณ์บีบคั้นยิ่งขึ้นให้ต้องกำชัยชนะเท่านั้น
เขาทิ้งท้ายว่า "โปรดระลึกไว้เสมอว่า จะไม่มีผู้ชนะที่แท้หริงหรือผู้แพ้อย่างสมบูรณ์ในสงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง"
- ที่มา: รอยเตอร์ เอพี เอเอฟพี และนิวส์วีค