งานประกาศผลงานยอดเยี่ยมทางโทรทัศน์ของสหรัฐฯ เอ็มมีอวอร์ด กลับมาจัดเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังต้องลดขนาดงานลงในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และในงานปีนี้ นอกจากเจ้าของรางวัลในปีก่อน ๆ ที่ยังคงรักษาระดับผลงานได้อย่างดีเยี่ยม นักแสดงชาวเกาหลีจากซีรีส์ยอดนิยม ‘Squid Game’ ยังได้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ชนะรางวัลเชื้อสายเอเชียจากผลงานที่ไม่ได้นำเสนอเป็นภาษาอังกฤษเป็นคนแรกของงานนี้ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
การประกาศผลรางวัลเอ็มมีครั้งที่ 74 จัดขึ้นโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางโทรทัศน์ที่โรงละคร ไมโครซอฟต์ ในนครลอสแอนเจลิส ในช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาในสหรัฐฯ โดยมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเช่นเคย
สำหรับผู้ชนะที่รางวัลในปีนี้ไปได้มากที่สุดยังคงเป็นซีรีส์ตลก ‘Ted Lasso’ และดรามายอดนิยม ‘Succession’ ที่คว้าไป 4 รางวัลเท่า ๆ กัน โดยทั้งคู่ยังคว้ารางวัลซีรีส์ตลกยอดเยี่ยมและซีรีส์ดรามายอดเยี่ยมไปด้วย
แต่ประเด็นที่หลายคนต้องพูดถึงคือ การที่ ลี จอง-แจ นักแสดงนำจาก Squid Game เอาชนะคู่แข่งรายอื่น ๆ และคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาซีรีส์ดรามามาครองได้ โดย ลี คือนักแสดงจากเอเชียคนแรกที่ชนะรางวัลในสาขานี้ของเอ็มมีอวอร์ดด้วย
ลี กล่าวขอบคุณเมื่อขึ้นไปรับรางวัลว่า ตนรู้สึกขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้ปัญหาที่สังคมกำลังเผชิญอยู่นี้กลายมาเป็นประเด็นที่ผู้คนรับรู้ว่าเป็นเรื่องจริงในแบบที่เปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์บนจอโทรทัศน์ พร้อมแสดงความหวังว่า การที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากผู้ชมและเวทีประกาศรางวัลเช่นนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักแสดงเชื้อสายเอเชียให้มากขึ้นด้วย
นอกจาก ลี แล้ว ฮวาง ดง-ฮยุค ผู้สร้างซีรีส์นี้ยังได้รับรางวัลกำกับยอดเยี่ยมสาขาซีรีส์ดรามาด้วย โดยเขาให้สัมภาษณ์เมื่อมาอยู่ที่หลังเวทีว่า นี่คือ “ช่วงเวลาที่สำคัญช่วงหนึ่งของเรา”
อย่างไรก็ดี เอพี มองว่า ชัยชนะของซีรีส์ Squid Game และซีรีส์ใหม่ Abbott Elementary ที่คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากบทบาทครูอนุบาลของนักแสดงผิวสี เชอรีล ลี ราล์ฟ และบทยอดเยี่ยมในสาขาซีรีส์ตลกโดย ควินตา บรันสัน นักแสดงตลกและนักเขียนบทหญิงผิวสี ยังไม่ได้สะท้อนภาพความหลากหลายทางเชื้อชาติของการมอบรางวัลในปีนี้ที่มีตัวแทนจากกลุ่มคนที่ไม่ใช้คนผิวขาวเข้าชิงน้อยกว่าการประกาศรางวัลเมื่อปีที่แล้วอย่างมาก
- ที่มา: เอพี