พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดประชุมใหญ่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมนี้ โดยคาดว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สาม ซึ่งจะทำให้สถานะของประธานาธิบดีสีกลายเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจมากที่สุดนับตั้งแต่ เหมา เจ๋อตุง
คณะกรรมการโพลิตบูโร ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประกาศวันเริ่มการประชุมใหญ่ของพรรคฯ ซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี และจะใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ โดยจะเป็นการประชุมแบบปิดภายในหอประชุมใหญ่ประชาชนจีน บริเวณจตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง
ปธน.สี ปัจจุบันอายุ 69 ปี ได้รวมศูนย์อำนาจไว้ตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อสิบปีก่อน และได้กำจัดกลุ่มก้อนฝ่ายตรงข้ามกับตนตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
ภายใต้การปกครองของ สี จิ้นผิง จีนได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญบนเวทีโลกหลายด้าน ในฐานะผู้นำประเทศกำลังพัฒนา และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของโลกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่มีสหรัฐฯ เป็นผู้นำหลัก
สตีฟ ชาง ผอ.สถาบันจีน SOAS แห่ง University of London ให้ความเห็นว่า "ปธน.สี จะนำพาประเทศไปสู่นโยบายที่มีจีนเป็นจุดศูนย์กลางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศ" และว่า "เขาจะเน้นย้ำความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ในฐานะผู้นำในทุกสิ่งในประเทศจีน และพรรคฯ เองก็ยินยอมเดินตามผู้นำอย่างเต็มที่เช่นกัน"
ทั้งนี้ เมื่อปีค.ศ. 2018 ปธน.สี ได้มีคำสั่งยกเลิกข้อจำกัดที่ให้ประธานาธิบดีจีนสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียงสองวาระ เพื่อปูทางให้ตนเองขยายเวลาการอยู่ในตำแหน่งไปเป็นสมัยที่สาม หรือมากกว่านั้น
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ในการประชุมสภาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญภายในพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนมากนัก ยกเว้นผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ที่จะเกษียณในเดือนมีนาคมปีหน้า รวมทั้งใครที่จะมานั่งในคณะกรรมการพูลิตบูโรชุดใหม่ร่วมกับปธน.สี รวม 7 คน
สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นนายกฯ คนต่อไป ได้แก่ หวัง หยาง หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาการเมืองคนปัจจุบัน, หู ชุนหัว รองนายกรัฐมนตรี และ เฉิน มินเอ๋อ หัวหน้าพรรคคอมมินนิสต์เขตฉงชิ่ง ผู้ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในระดับประเทศ
ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างจับตามองว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้ จีนจะมีนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างไร หลังจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในช่วงการะบาดของโควิด-19 รวมทั้งจะมีนโยบายด้านสาธารณสุขในการรับมือการระบาดใหญ่ที่นำมาใช้แทนมาตรการ "โควิดเป็นศูนย์" หรือไม่
นอกจากนี้ นโยบายที่มีต่อไต้หวัน ฮ่องกง ทิเบตและมณฑลซินเจียง ตลอดจนความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ก็ล้วนอยู่ในความสนใจของผู้ที่ติดตามการประชุมสภาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งนี้เช่นกัน
- ที่มา: รอยเตอร์