การจับจ่ายสินค้าสำหรับเด็กนักเรียนในช่วงเปิดเทอม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลา ที่ทำให้เราเข้าใจถึงผลกระทบที่ของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
คาร์ล มอห์ริง ซีอีโอของบริษัท Washington Shoe Company ที่ตั้งอยู่ในเมืองเคนท์ รัฐวอชิงตัน ซึ่งทำธุรกิจรองเท้า รวมถึงรองเท้าสำหรับเด็ก ชี้ว่า ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทตัดสินใจปรับเพิ่มราคาขายปลีก 15% อันเป็นผลมาจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ส่วนในเดือนพฤษภาคม น้ำมันและอาหารต่าง ๆ มีราคาพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป จากที่เลือกซื้อรองเท้าบูทกันฝนที่อยู่ในกลุ่มราคาสูง คู่ละ 35 ดอลลาร์ ลูกค้าหันไปสนใจรองเท้ารุ่นที่มีราคาถูกลง ราว 5 ถึง 10 ดอลลาร์
มอห์ริง กล่าวว่า “เราเห็นผู้บริโภคปรับลดการใช้จ่าย โดยยอดขายของทั้งสองกลุ่มนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากถึง 20% ในทิศทางตรงกันข้ามกัน อีกทั้งค่าแรงยังไม่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ”
ในช่วงของการเปิดเรียนเทอมใหม่ ผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยจนถึงปานกลาง มักที่จะเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น และจับจ่ายในร้านที่มีสินค้าราคาถูกลง เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ธุรกิจค้าปลีก Walmart ตั้งข้อสังเกตว่า ราคาน้ำมันและอาหารที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าตามใจชอบลดลง โดยเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ทางด้าน Best Buy ร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ อ้างว่าอัตราเงินเฟ้อทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคต่อสินค้าอุปกรณ์ต่าง ๆ ลดลง โดยทั้งสองบริษัทข้างต้น ได้ทำการปรับลดประมาณการกำไรของตนเองแล้ว
การจับจ่ายช่วงเปิดเทอม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของธุรกิจต่างๆ เป็นรองเพียงแค่การจับจ่ายในเทศกาลวันหยุดปลายปี โดยปีที่แล้วผู้บริโภครายได้น้อยจำนวนมากที่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลและการปรับเพิ่มค่าจ้าง ทำให้คนกลุ่มนี้ต่างออกมาจับจ่ายอย่างสบายใจ แต่ว่าปีนี้มีความแตกต่างออกไป
แมทท์ พรีสท์ ซีอีโอของกลุ่มการค้า Footwear Distributors & Retailers of America กล่าวว่า ปีที่แล้วสมาชิกค้าปลีกของกลุ่มสังเกตเห็นยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงกลางเดือน หลังจากที่ภาครัฐคืนภาษีให้แก่ผู้มีบุตรมูลค่า 300 ดอลลาร์ต่อบุตรหนึ่งคน ส่วนในปีนี้ที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นใด ๆ เชื่อว่า ผู้ปกครองจะซื้อรองเท้าให้แก่บุตรหลานน้อยลง และเลือกซื้อสินค้าที่ไม่ใช่ยี่ห้อดังแทน
เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่บีบคั้น เจสสิก้า เรเยส อายุ 34 ปี พาลูกสาวของเธอ 2 คนไปรับอุปกรณ์การเรียนที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าเป้แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ในงาน “Back to School Bash” ที่จัดขึ้นในเดือนที่ผ่านมา ทางตอนเหนือของนครชิคาโก
เรเยสกล่าวว่า “ครอบครัวเรามีรายได้ทางเดียว เรียกว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงของใช้ที่จำเป็นด้านการเรียนสำหรับเด็ก ๆ” เมื่อออกไปซื้อของ ลูก ๆ ของเธออาจจะรู้สึกสนใจอุปกรณ์การเรียนที่มีรูปของนักแสดงหรือสัตว์ต่าง ๆ ที่พวกเขาชื่นชอบ แต่สำหรับคุณแม่จะเน้นไปที่สินค้าแบบธรรมดา เรเยสอธิบายว่า “ลูก ๆ อยากได้ชิ้นที่น่ารัก อย่างเช่น มีรูปของลูกแมว แต่สินค้าพวกนั้น มักที่จะมีราคาแพงกว่า ถ้าเทียบกับแบบไม่มีลวดลาย”
ทางด้าน แมนนี่ โคลอน อายุ 38 ปี ที่พาลูกสาว 2 คนมารับอุปกรณ์การเรียนในงานเดียวกัน เล่าให้ฟังว่า ภรรยาของเขาต้องทำงานพิเศษเพิ่ม เพราะทั้งราคาน้ำมัน ของกินของใช้ รวมถึงอุปกรณ์การเรียน ต่างมีราคาที่สูงขึ้น
หลายฝ่ายคาดว่า การจับจ่ายในช่วงการเปิดเทอมมีสัญญาณที่ดี Mastercard SpendingPulse ที่ติดตามการใช้จ่ายในทุกรูปแบบ รวมถึงการชำระด้วยเงินสด คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมจะเพิ่มขึ้น 7.5% นับตั้งแต่ 14 กรกฎาคมถึง 5 กันยายน ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายเพิ่มขึ้นไป 11% ส่วนการใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมของปี 2020 ยอดขายลดลง 0.8% อันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ ที่สร้างความเสียหายให้กับแผนการเปิดโรงเรียน และการจับจ่ายสินค้าช่วงเปิดเทอม
อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าที่สูงขึ้นได้ผลักดันให้ตัวเลขต่าง ๆ สูงขึ้นเช่นกัน อ้างอิงตามข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์การค้าปลีก DataWeave ชี้ว่า ในการจับจ่ายช่วงเปิดเทอมปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สินค้าในหนึ่งตะกร้าที่มีจำนวน 12 ชิ้น จะพบว่า มีราคาเฉลี่ยสูงขึ้นราว 15% ตัวอย่างเช่น ราคาของกระเป๋าเป้สะพายหลัง เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 70 ดอลลาร์โดยถือว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 12%
Back 2 School America คือองค์กรไม่แสวงผลกำไร ในรัฐอิลลินอยส์ ที่ทำการจัดส่งชุดอุปกรณ์การเรียนไปให้แก่เด็ก ๆ ที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย และ แมทธิว เคอร์ซแมน ซีอีโอขององค์กรดังกล่าวเผยว่า ต้นทุนของอุปกรณ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก คู่ค้าปรับราคาเพิ่มอีก 10% และค่าขนส่งก็สูงขึ้นเช่นกัน
ในปีนี้ องค์กรได้รับเงินสนับสนุนที่สามารถจัดส่งชุดอุปกรณ์การเรียนไปให้แก่เด็ก ๆ ได้มากกว่าที่เคย โดยคาดว่า จะจัดส่งได้จำนวน 30,000 ชุดภายในเดือนสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ดี ในอนาคตยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องเงินสนับสนุน เนื่องจากเกิดความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มมากขึ้น
กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ โดยเฉพาะสินค้าเสื้อผ้า เมื่อปลายเดือนกรกฏาคมทาง Walmart กล่าวว่า จากสัญญาณยอดขายของอุปกรณ์การเรียนในช่วงต้น ๆ ส่งผลให้ทางบริษัททำการลดราคาเสื้อผ้าเป็นพิเศษเพื่อล้างสต๊อก โดยเหล่านักวิเคราะห์เชื่อว่าการลดราคาดังกล่าว จะกดดันคู่แข่งรายอื่น ๆ ให้ลดราคามากขึ้นเพื่อสามารถแข่งขันในตลาดได้
มอห์ริง ซีอีโอของบริษัท Washington Shoe Company ให้ทัศนะว่า ในเดือนหน้าทางบริษัทเตรียมที่จะโยกการผลิต สินค้าประเภทรองเท้าบูทราคาสูง ไปสู่การผลิตรองเท้าที่มีราคาย่อมเยา แม้ว่ายอดขายโดยรวมของปีนี้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา แต่มอห์ริงกลับไม่วางใจและเชื่อว่าทิศทางแนวโน้มยังไม่มีความชัดเจน
- ที่มา: เอพี