ผู้นำฝรั่งเศส-เยอรมนี-อิตาลี พร้อมใจเยือนกรุงเคียฟ ในวันพฤหัสบดี เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมาเกือบ 4 เดือน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลส์ แห่งเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี แห่งอิตาลี เดินทางถึงกรุงเคียฟแล้วในวันพฤหัสบดี โดยผู้นำทั้งสามได้พบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และเยือนเมืองเอียร์พินที่เสียหายจากการโจมตีจากรัสเซีย
ประธานาธิบดีมาคร็อง แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ และเป็นการส่งข้อความถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวยูเครน” ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้ขอบคุณผู้นำยุโรปที่ “แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนและชาวยูเครน”
การพร้อมใจเยือนยูเครนของผู้นำประเทศมหาอำนาจยุโรป มีขึ้นในช่วงที่สหภาพยุโรปจะสรุปผลการขอเข้าเป็นสมาชิกอียูของยูเครนในสัปดาห์นี้ อีกทั้งยังเป็นท่าทีเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญ เนื่องจากทั้งสามประเทศเจอกระแสวิจารณ์ว่าเข้ามาช่วยเหลือยูเครนช้าเกินไป อีกทั้งยังไม่สามารถจัดส่งอาวุธที่จำเป็นให้กับยูเครนในการรับมือกับการโจมตีของรัสเซีย
ความช่วยเหลือการทหาร
การประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมนาโต้ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในการจัดส่งอาวุธเพื่อช่วยเหลือกองกำลังยูเครน ดำเนินต่อไปในวันพฤหัสบดี โดยเมื่อวันพุธ สหรัฐฯ เพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นความช่วยเหลือทางอาวุธยุทธโปกรณ์ครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในการรับมือต่อรัสเซียที่กำลังรุกรานแคว้นดอนบาสของยูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ถึงการส่งมอบอาวุธครั้งใหม่นี้ ซึ่งมีทั้งปืนใหญ่ อาวุธป้องกันชายฝั่ง เครื่องกระสุนปืน และระบบจรวดขั้นสูง ที่ยูเครนต้องการใช้ป้องกันประเทศจากปืนใหญ่ของรัสเซีย และจัดส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก 225 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือชาวยูเครน ทั้งน้ำดื่มที่ปลอดภัย เวชภัณฑ์ที่จำเป็น อาหาร ที่พักอาศัย และเงินสดสำหรับใช้จ่ายสินค้าจำเป็นของครอบครัว
ปธน. ไบเดนระบุว่า ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของชาวยูเครนยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่โลกต่อไป โดยสหรัฐฯ พร้อมชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนจะยังคงยึดมั่นต่อชาวยูเครนที่ต่อสู้เพื่อสันติภาพ
- มีเนื้อหาบางส่วนจากรอยเตอร์ เอพี และเอเอฟพี