องค์การอากาศสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) ได้ประกาศว่าจะจัดตั้งทีมงานเพื่อศึกษาสิ่งที่เรียกว่า “ปรากฎการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้” หรือ UAPs (unidentified aerial phenomena) หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม ยูเอฟโอ (UFO) นั่นเอง
ในการแถลงบนเว็บไซต์ในวันพฤหัสบดี นาซ่ากล่าวว่าทีมงานจะเริ่มทำงานในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อศึกษาปรากฎการณ์บนท้องฟ้าที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นยานอวกาศ หรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ การศึกษาครั้งนี้จะมุ่งไปที่การใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้ว และดูว่าจะเก็บข้อมูลในอนาคตอย่างไร และนาซ่าจะใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการพัฒนาความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องยูเอฟโออย่างไร
นาซ่ากล่าวว่า ปรากฎการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้นี้ ได้รับความสนใจไม่ใช่แค่ในแง่วิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังน่าสนใจในแง่ความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยทางอากาศ นาซ่ากล่าวว่าการหาคำตอบให้ได้ว่าปรากฎการณ์ใดเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เป็นขั้นตอนแรกที่จะช่วยให้สามารถระบุหรือลดการคาดเดาเกี่ยวกับปรากฎการณ์ดังกล่าวลง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายในการรักษาความปลอดภัยบนท้องฟ้า
นอกจากนั้น นาซ่ายังระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ระบุว่าปรากฎการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้นั้น มีต้นกำเนิดมาจากนอกโลก
ทีมศึกษาอิสระของนาซ่าจะนำโดย เดวิด สเปอร์เกล (David Spergel) นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ และอดีตประธานของภาควิชาดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ที่มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน (Princeton University)
ด้านโธมัส ซูร์บูเคน (Thomas Zurbuchen) ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ที่สำนักงานใหญ่ของนาซ่าในกรุงวอชิงตัน กล่าวด้วยว่า นาซ่ายังมีเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะเอื้อต่อการค้นพบและค้นหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์ เช่น หอสังเกตการณ์อวกาศที่ตั้งอยู่บนโลก ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสืบหาข้อเท็จจริง
ทีมงานของนาซ่านี้ ไม่ใช่ทีมเดียวกับทีมงานเฉพาะกิจ (Unidentified Aerial Phenomena Task Force) ที่ตั้งขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เพื่อศึกษาปรากฎการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถระบุได้ แต่นาซ่าจะประสานงานกับหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ เพื่อหาวิธีการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อหาคำตอบถึงลักษณะและแหล่งกำเนิดของปรากฎการณ์ลึกลับบนท้องฟ้า
ทีมงานของนาซ่าคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 9 เดือนในการศึกษาหาคำตอบในครั้งนี้ และเมื่อเสร็จแล้ว จะมีการนำเสนอผลการศึกษาต่อสาธารณชน
- ข้อมูลบางส่วนนำมาจากรอยเตอร์