สหรัฐฯ ประกาศแผนฉบับใหม่ เพื่อขยายความร่วมมือด้านนาวีกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ การประชุมสุดยอด U.S.-ASEAN Summit ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งถูกมองว่า เป็นการเเสดงความเป็นปึกแผ่นระหว่างอเมริกาเเละอาเซียน ท่ามกลางการขยายอำนาจของจีน
รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยถึงโครงการริเริ่มความรร่วมมือทางทะเลใหม่ มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง การเพิ่มศักยภาพการบังคับใช้กฎหมายเดินเรือระหว่างประเทศและการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย
ภายใต้โครงการดังกล่าว ประเทศอาเซียนที่มีดินเเดนติดทะเล จะได้รับการสนับสนุนด้วยเรือจากสหรัฐฯที่จะถูกส่งไปทำงานร่วมกัน
เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของรัฐบาลอเมริกันกล่าวว่า "เราต้องยกระดับการเดินเกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...เราต้องทำงานใกล้ชิดขึ้นกับอาเซียน"
ที่การประชุมสุดยอดในวันศุกร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย เรตโน มาร์ซูดิ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ได้หารือกัน
รัฐมนตรีมาร์ซูดิ กล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังทำงานกับอาเซียนในการ "ผลักดันวิสัยทัศน์ร่วมกันเรื่องภูมิภาคอินโดเเปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง"
รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จุง พัคกล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์นี้ว่า เรื่องทะเลจีนใต้เป็นประเด็นที่น่ากังวล
"เราได้เห็นการกระทำที่ก้าวร้าวเพิ่มขึ้นของจีนต่อประเทศที่อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้อื่นๆ" เธอกล่าว "เราจะทำงานร่วมกันกับพันธมิตรและหุ้นส่วนทุกรายในภูมิภาคนี้และส่วนอื่นๆของโลก เพื่อให้เเน่ใจว่าทะเลจีนใต้จะเป็นพื้นที่ที่เสรีและเปิดกว้าง"
รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนเตรียมที่จะเดินหน้าแผน "Indo-Pacific Economic Framework" ซึ่งจะเป็นความริเริ่มทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โครงการแรกหลังจากที่รัฐบาลอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ถอนตัวออกจากการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ Trans-Pacific Partnership
ทั้งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี ทำเนียบขาวประกาศโครงการมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ ที่รวมถึงการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ความมั่นคงด้านสาธารณสุขและการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน
- ที่มา: วีโอเอ