หลังกฎการสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการใช้ระบบขนส่งสาธารณะถูกศาลสั่งยกเลิกในสหรัฐฯ ประชาชนจำนวนมากตั้งคำถามว่าการเดินทางต่อจากนี้ไปที่ผู้คนเลิกใส่แมสก์จะมีขั้นตอนอย่างไรและมีความปลอดภัยมากแค่ไหน
เป็นเวลาถึง 14 เดือนที่ชาวอเมริกันต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการระบาดของโควิดด้วยการใส่หน้ากากอนามัยเวลาเดินทางด้วยเครื่องบินและระบบขนส่งสาธารณะ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ข้อปฏิบัติดังกล่าวถูกสั่งระงับโดยผู้พิพากษารัฐบาลกลางแห่งรัฐฟลอริดา แคทริน คิมบอล มิเซลล์ และส่งผลให้สายการบินและสนามบินจำนวนมากประกาศให้ผู้โดยสารสามารถถอดหน้ากากอนามัยออกได้บางครั้งเมื่ออยู่บนเครื่อง
ผู้พิพากษามิเซลล์ ระบุว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯใช้อำนาจเกินขอบเขตในการออกกฎการใส่หน้ากากอนามัยคำสั่งดังกล่าวมีผลอย่างไร?
คำสั่งของผู้พิพากษามิเซลล์ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูเเลการคมนาคมหรือ TSA ถอนกฎการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อผู้โดยสารใช้บริการสายการบิน ระบบขนส่งและบริษัทบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอป
ขณะนี้ สายการบินต่างๆ เช่น Delta, American, Southwest, Alaska และ JetBlue ได้ประกาศยกเลิกการบังคับใส่แมสก์แล้ว ส่วนบนภาคพื้นดินนั้น กฎมีความเเตกต่างกันไปตามเเต่ละพื้นที่ เช่น นครนิวยอร์กเตรียมประกาศให้ผู้คนใส่แมสก์เวลาใช้ระบบขนส่งสาธารณะต่อไป ส่วนเมืองฟิลาเดลเฟีย ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องใส่แมสก์เวลาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น ในรถไฟใต้ดิน รสโดยสารประจำทาง รถไฟ หรือในสถานี แต่จำต้องใส่แมสก์ในเวลาไปไหนมาไหนในเขตตัวเมือง
ทางด้าน Uber และ Lyft ประกาศว่า ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องใส่แมสก์อีกต่อไป
เหตุใดผู้พิพากษาเพียงคนเดียวถึงมีอำนาจขนาดนี้?
สำนักข่าวเอพีชี้ว่า คำตัดสินส่วนใหญ่ของผู้พิพากษารัฐบาลกลางจะมีผลบังคับใช้ต่อผู้คนที่เกี่ยวข้องในคดีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาสามารถออกคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ (universal injunctions) ได้ ซึ่งผลทางกฎหมายในลักษณะนี้ ถูกวิจารณ์จากผู้พิพากษาของศาลสูงสุดสหรัฐฯบางคน
รัฐบาลไบเดนจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินหรือไม่?
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ชี้แจงว่า รัฐบาลจะยื่นอุทธรณ์ในกรณีที่ CDC เห็นว่ามาตรการบังคับการใส่หน้ากากอนามัยนั้นยังคงมีความจำเป็นอยู่เท่านั้น ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีระบุว่า การคัดค้านคำสั่งศาลข้างต้นอาจทำให้รัฐบาลไบเดนได้รับความเสี่ยงทางการเมือง
และแม้การคัดค้านการใส่แมสก์จะได้รับความนิยมในช่วงแรก ๆ ที่กฎดังกล่าวมีผลบังคับใช้ แบบสำรวจความคิดเห็นสาธารณะได้ระบุว่า ชาวอเมริกันเคยชินกับการใส่แมสก์เวลาไปไหนมาไหนแล้ว การสนับสนุนให้ยกเลิกมาตรการจึงไม่ได้รับความนิยมเหมือนเมื่อก่อน
ปลอดภัยที่จะเดินทางหรือไม่?
นายแพทย์ บาแบค จาวิด แห่ง University of California ที่ San Francisco กล่าวว่า ความเสี่ยงในการติดเชื้อขึ้นอยู่กับประเภทของการเดินทาง ระบบกรองอากาศเป็นเครื่องบินนั้นมีประสิทธิภาพที่ดี แต่การต่อแถวขึ้นเครื่องและลงเครื่องที่ผู้คนจะต้องยืนในระยะใกล้ชิดกันอาจจะเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้เพราะอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้สะดวก
ทางด้าน นายแพทย์ เดวิด ดาวดี้ นักระบาดวิทยาแห่ง Johns Hopkins Bloomberg School of Public Health ชี้ว่า เครื่องบินสามารถเคลื่อนย้ายไวรัสจากที่สู่ที่ได้ แต่สิ่งที่ควรได้รับความสนใจมากกว่านั้นคือ การจัดงานสังสรรค์ขนาดใหญ่ เช่น การเล่นคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา และงานแต่งงานใหญ่ ๆ ที่ผู้ร่วมงานมักจะนั่งใกล้กัน สนทนา ตะโกนและร้องเพลงทั้งนี้ CDC แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยต่อไปเมื่ออยู่ในตัวอาคารและเวลาเดินทางไปไหนมาไหน
หน้ากากอนามัยสามารถป้องกันได้ไหม หากผู้คนรอบข้างเลือกที่จะไม่ใส่?
การใส่หน้ากากอนามัยสามารถป้องกันเชื้อโควิดได้ และการแพร่เชื้อจะลดหากทุกคนใส่หน้ากากอนามัย
คาร์ล เบิรก์สตรอม นักชีววิทยาด้านโรคระบาดแห่ง University of Washington ระบุว่า หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานสามารถป้องกันผู้ใส่จากโรคระบาดต่าง ๆด้วยการลดจำนวนเชื้อโรคที่ผู้ใส่สูดดมเข้าไป และช่วยป้องกันผู้คนโดยรอบด้วยการลดจำนวนการแพร่การกระจายของเชื้อโรคจากผู้ติดเชื้อที่สวมแมสก์จะดูแปลกไหมหากไม่ใส่หน้ากากอนามัย?
เอ็ด บาสเตียน ซีอีโอของสายการบิน Delta ซึ่งสนับสนุนการเลิกใส่แมสก์ กล่าวก่อนที่คำสั่งของผู้พิพากษามิเซลล์จะเกิดขึ้นว่า เขาคาดว่า ผู้โดยสารและพนักงานสายการบินจำนวนมากจะยังคงใส่หน้ากากอนามัยต่อไป แม้มาตรการข้างต้นจะถูกยกเลิกไป ส่วนตัวเขาเองนั้นอาจจะเลือกใส่แมสก์เป็นครั้งคราวไป
แต่ไอลีน อ็อกนิซ นักเขียนด้านการท่องเที่ยวแบบครอบครัว กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างผู้โดยสารถึงกฎการใส่หน้ากากอนามัยจะยังดำเนินต่อไป ซึ่งเธอแนะนำให้ผู้ปกครองอธิบายให้ลูกเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถได้รับวัคซีน เข้าใจถึงความสำคัญในการใส่แมสก์ต่อไป แม้ลูก ๆ อาจจะได้รับคำติเตียนทั้งจากคำพูดเเละสายตาจากผู้โดยสารคนอื่นที่เลือกจะไม่ใส่แมสก์สามารถขอเงินคืนจากสายการบินได้หรือไม่ หากรู้สึกไม่สบายใจที่จะบิน?
สำนักข่าวเอพีชี้ว่า ผู้โดยสารที่รู้สึกไม่สบายใจที่จะขึ้นบินเพราะมาตรการใหม่เพียงเหตุผลเดียว อาจไม่สามารถขอเงินคืนจากสายการบินได้ ผู้โดยสารจำต้องยกเลิกไฟลท์เท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้เงินคืน
ทั้งนี้ สกอตต์ คียส์ แห่งเว็บไซต์ท่องเที่ยว Scott’s Cheap Flights ชี้ว่า ผู้โดยสารสามารถติดต่อสายการบินเพื่ออธิบายถึงเหตุผลว่า เหตุใดถึงไม่สบายใจที่จะเดินทาง สายการบินส่วนใหญ่มักจะให้บริการเปลี่ยนเที่ยวบินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรืออาจให้เครดิตที่สามารถนำมาใช้บินได้อีกในอนาคต
มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินต่างประเทศอย่างไร?
กฎของการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเดินทางไปต่างประเทศนั้น สำนักข่าวเอพีชี้ว่าจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสายการบินว่าจะปฏิบัติตามกฎของประเทศใด ซึ่งสายการบินส่วนใหญ่มักจะเคารพกฎของประเทศที่มีมาตรการที่เข้มงวดกว่า ยกตัวอย่างเช่น ผู้โดยสารที่เดินไปประเทศแคนาดาอาจจำเป็นต้องหยิบหน้ากากอนามัยขึ้นมาใส่ระหว่างไฟลท์เมื่อเดินทางเข้าน่านฟ้าหรือเขตของประเทศ อย่างไรก็ตาม กฎดังกล่าวยังขาดความชัดเจนอยู่
เฮนรี่ ฮาร์เวทด์ นักวิเคราะห์การท่องเที่ยวแห่ง Atmosphere Research Group กล่าวว่า เป็นไปได้ที่สายการบินต่างชาติบางสายอาจจะบังคับให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเดินทางไปหรือออกจากสหรัฐฯประวัติของผู้พิพากษาแคทริน คิมบอล มิเซลล์
ผู้พิพากษาแคทริน คิมบอล มิเซลล์ วัย 33 ปี ได้รับการเสนอชื่อโดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และได้รับการยืนยันการเเต่งตั้งในสภาที่พรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมากให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อปี 2020 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์แพ้การเลือกตั้งศึกผู้นำสหรัฐฯ ไม่นาน
ผู้พิพากษามิเซลล์ นับว่าเป็นบุคคลที่มีอายุน้อยที่สุดภายใต้การเสนอชื่อและแต่งตั้งให้มาเป็นผู้พิพากษาในรัฐบาลชุดทรัมป์อีกด้วยทั้งนี้ เนติบัณฑิตยสภาของอเมริกา (American Bar Association) ประเมินในระบบ rating ว่า ผู้พิพากษามิเซลล์ “not qualified” หรือ “ขาดคุณสมบัติที่เหมาะสม” ส่วนหนึ่งเพราะเธอเป็นทนายมาแค่เพียง 8 ปีเท่านั้น
ถ้าการระบาดโควิดเพิ่มขึ้นจะทำอย่างไร?
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีก แต่การยกเลิกการใส่แมสก์ของผู้โดยสารอาจกระทบต่อการเดินทางในฤดูร้อนได้หากพนักงานในสายการบินล้มป่วยเพราะมาตรการใหม่
ยกตัวอย่าง จากช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่พนักงานสายการบินจำนวนมากลางานเพราะพวกเขาล้มป่วยจากสายพันธุ์โอมิครอน
- ที่มา: เอพี