รัฐบาลยูเครนกล่าววันพุธว่าสามารถตกลงขั้นต้นได้กับฝ่ายรัสเซียที่จะอพยพประชาชนออกจากเมืองมาริอูโพล ขณะที่รัสเซียเรียกร้องอีกครั้งให้ทหารยูเครนที่เหลืออยู่ที่เมืองดังกล่าวยอมจำนน
รองนายกรัฐมนตรี ไอรีนา เวเรชชุค ของยูเครนกล่าวว่า ข้อตกลงขั้นต้นดังกล่าวจะเปิดทางให้สตรี เด็กและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่ได้
ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีเวเรชชุคระบุว่า ไม่สามารถทำให้เกิดเส้นทางอพยพประชาชนอย่างปลอดภัย หรือ “humanitarian corridor” เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน
รัสเซียขีดเส้นตายในวันพุธ ให้ทหารยูเครนที่มาริอูโพลวางอาวุธ และยอมจำนน โดยก่อนหน้านี้ข้อเรียกร้องเดียวกันไม่ได้รับการตอบรับจากยูเครน
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษกล่าวในวันพุธว่ารัสเซียเพิ่มกำลังทหารที่เขตดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนและพยายามฝ่าเเนวตั้งรับของทหารยูเครน
ด้าน ประธานสภายุโรป ชาร์ลส์ มิเชล เดินทางเยือนกรุงเคียฟโดยมิได้เปิดเผยล่วงหน้าในวันพุธ ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เเสดงถึงการสนับสนุนของบรรดาผู้นำยุโรปต่อยูเครน หลังจากที่ผู้นำคนอื่นๆหลายคนเดินทางเยือนยูเครนไปแล้วเช่นกัน
และที่ทำเนียบขาวโฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ เจน ซากิกล่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือกับผู้นำประเทศต่างๆ เช่น อังกฤษ ฝรังเศส ญี่ปุ่น โปแลนด์ รวมถึงผู้นำองค์การสนธิสัญญาเเอตเเลนติกเหนือ ในเรื่องการส่งอาวุธเเละความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพิ่มให้กับยูเครน
เจน ซากิกล่าวด้วยว่าสหรัฐฯอาจจะเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้
สำหรับจำนวนผู้อพยพ องค์การด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติกล่าวว่า คนยูเครนที่ออกจากประเทศแล้วมีทั้งหมดกว่า 5 ล้านคน ซึ่งไม่รวมถึงอีก 7 ล้านคนในประเทศที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่เดิมของตน
หน่วยงานดังกล่าวประเมินว่ามีชาวยูเครนอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนเเรงประมาณ 13 ล้านคน โดยจำนวนมากไม่สามารถเดินทางได้และประสบความยากลำบากในการเข้าถึงความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย”
ที่มา: วีโอเอ, เอพี, เอเอฟพี, รอยเตอร์