กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าลงเหลือ 3.6% ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งที่แล้ว 0.8% เนื่องจากผลกระทบของสงครามในยูเครน พร้อมเตือนด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อสูงกำลังเป็นอันตรายต่อหลายประเทศ ตามรายงานของรอยเตอร์
ไอเอ็มเอฟ ระบุในรายงานภาพรวมเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ฉบับล่าสุดว่า สงครามในยูเครนอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอการขยายตัวลง และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
มาตรการลงโทษต่อภาคพลังงานของรัสเซีย ผลกระทบของสงครามในวงกว้าง และการปรับตัวลดลงของเศรษฐกิจจีนเนื่องจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ล้วนส่งผลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่เงินเฟ้อในระดับสูงจะยิ่งสร้างปัญหาปากท้องให้กับประชาชนในหลายประเทศ และอาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคม
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองในรอบปีที่ไอเอ็มเอฟปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลง โดยเมื่อเดือนมกราคม ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 4.4% และ 3.8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสงครามในยูเครน
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกต้องก้าวถอยหลังเพราะรัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาในห่วงโซ่อุปทานที่เป็นอุปสรรคสำคัญของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงสองปีที่ผ่านมา
"ผลของสงครามนี้เหมือนคลื่นแผ่นดินไหวที่สะเทือนไปอย่างกว้างขวางและยาวไกล กระทบต่อตลาดและการค้าต่าง ๆ รวมถึงภาคการเงิน" กูรินชาส์กล่าว
สงครามในขณะนี้ยังทำให้อัตราเงินเฟ้อยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศเนื่องจากการขาดสมดุลในด้านอุปสงค์และอุปทานของสินค้าที่ต่อเนื่องมาจากช่วงการระบาดใหญ่ รวมถึงการล็อกดาวน์ล่าสุดในนครเซี่ยงไฮ้ที่ทำให้ภาคการผลิตของจีนหยุดชะงักตามไปด้วย
โดยไอเอ็มเอฟประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 5.7% เพิ่มขึ้นจาก 1.1% ในการคาดการณ์ครั้งก่อน และอัตราเงินเฟ้อของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาคาดว่าจะอยู่ที่ 8.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ในการประเมินเมื่อเดือนมกราคม
ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจของรัสเซียและยูเครนในปีนี้จะหดตัวลงอย่างมาก รวมทั้งได้ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปซึ่งพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย ลงอีก 1.1% จากการคาดการณ์ครั้งที่แล้ว
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ กล่าวด้วยว่า ธนาคารกลางของหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ได้เริ่มใช้นโยบายการเงินแบบรัดเข็มขัดแล้ว แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามในยูเครนจะยังคงเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกต่อไป
- ที่มา: รอยเตอร์