เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะไม่แสดงอาการเจ็บป่วยของโรคนี้ อย่างเช่น เด็กหญิงบรู๊คลินน์ ชีเลส (Brooklynn Chiles) อายุ 8 ขวบจากกรุงวอชิงตัน ติดเชื้อโควิด-19 ถึงสามครั้ง แม้ว่าเธอได้จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสครบสามเข็มแล้ว และเธอก็ไม่เคยแสดงอาการร้ายแรงของโรคนี้เลย ซึ่งแพทย์กำลังพยายามทำความเข้าใจว่าเหตุใดเธอจึงติดเชื้อโควิด-19 อยู่เรื่อยๆ
ในการติดเชื้อครั้งหนึ่ง คุณพ่อของบรู๊คลินน์ก็ติดเชื้อด้วย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แดเนียล (Danielle) คุณแม่ของบรู๊คลินน์กังวลว่าลูกสาวของเธออาจจะป่วยหนักหากติดเชื้อไวรัสนี้อีกครั้งจนอาจทำให้เธอต้องสูญเสียลูกสาวไป
การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปี 2019 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก แต่ผลกระทบต่อเด็กนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
คาดว่ามีเด็กกว่า 12 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ดูเหมือนว่าไวรัสชนิดนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อเด็กเหมือนกับในผู้สูงอายุ
หลาย ๆ คนเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กว่าเป็นเรื่องที่ "แปลกประหลาด" เพราะมีเด็กบางคนที่ต้องทนทุกข์จากจากอาการเจ็บป่วยของโรคนี้เป็นเวลานาน ในขณะที่หลายๆ คนอื่นติดเชื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างเช่น บรู๊คลินน์ บางคนก็มีอาการป่วยและหายดี แต่จะมีการอักเสบของอวัยวะอย่างรุนแรงในภายหลัง
บรู๊คลินน์และเด็กคนอื่น ๆ เป็นหัวข้อในการศึกษาวิจัยที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน แพทย์ที่โรงพยาบาลนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อการศึกษาผลกระทบในระยะยาวของโควิด-19 ที่มีต่อเด็ก ๆ
โรงพยาบาลแห่งนี้มีเด็กที่มีอายุไม่เกิน 21 ปีราว 200 คนที่เข้าร่วมในการศึกษา ซึ่งจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาสามปี เด็ก ๆ เหล่านี้ต้องเข้ารับการทดสอบมากมายในการมาโรงพยาบาลครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเลือด ฟังเสียงหัวใจ และตรวจปอด เป็นต้น
โรเบอร์ตา เดอไบอาซี (Roberta DeBiasi) แพทย์หญิงซึ่งเป็นหัวหน้าการศึกษานี้กล่าวว่า นักวิจัยกำลังพยายามทำความเข้าใจปัญหาที่เด็ก ๆ ต้องประสบหลังจากติดเชื้อโควิด พร้อมทั้งศึกษาว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นบ่อยมากน้อยแค่ไหน
เด็กหญิงอลิซซา คาร์เพนเทอร์ (Alyssa Carpenter) อายุ 3 ขวบซึ่งเข้าร่วมในการศึกษานี้อีกคนหนึ่ง เธอติดเชื้อโควิด-19 สองครั้ง และยังมีอาการที่ผิดปกติ เช่น มีไข้สูงและปวดเท้า บางครั้งเธอนอนลงและชี้บอกว่าเธอมีอาการเจ็บปวดที่หน้าอกอีกด้วย
ทาร่า (Tara) และไทสัน คาร์เพนเทอร์ (Tyson Carpenter) คุณพ่อคุณแม่ของอลิซซาซึ่งมีลูกสาวอีกสองคน กล่าวว่า การเกิดโรคระบาดใหญ่ทำให้เกิดปัญหามากมายในชีวิตของพวกเขา แต่สิ่งที่กังวลมากที่สุด ก็คือการที่ไม่ทราบว่าจะช่วยอลิซซาได้อย่างไร บางวันอลิซซาก็ดูเหมือนจะสบายดี บางวันกลับมีไข้หรือมีอาการเจ็บปวด
แพทย์หญิงลินดา เฮอร์เบิร์ต (Linda Herbert) ซึ่งกำลังศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ได้ทำการทดสอบทางจิตวิทยา โดยการพูดคุยกับเด็ก ๆ ในเรื่องต่าง ๆ เช่น คุณภาพการนอนหลับ ความกังวล วิธีการเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ ตลอดจนทดสอบว่าพวกเขามีปัญหาในการจดจำสิ่งต่าง ๆ หรือไม่ และได้พบว่าเด็กหลายคนต่างกังวลว่าจะกลับมาป่วยอีกครั้งหนึ่ง
แพทย์หญิงเฮอร์เบิร์ตกล่าวว่าอาการทางจิตนั้นพบได้บ่อยพอ ๆ กับอาการทางร่างกาย เช่น ความเจ็บปวด แต่ไม่ใช่แค่เด็ก ๆ เท่านั้นที่มีความกังวลมากมาย พ่อแม่พี่น้องของพวกเขาก็มีความเครียดและความวิตกกังวลไม่แพ้กัน
แดเนียล คุณแม่ของบรู๊คลินน์ต้องการให้ลูกสาวของเธอเข้าร่วมในการศึกษาเพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับความจำเป็นในการฉีดวัคซีนกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนผิวดำ หลังจากที่ร็อดนีย์ (Rodney) สามีของเธอไม่ได้ฉีดวัคซีน เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยที่มีอยู่ก่อนแล้วและจากไปในวัย 42 ปีเท่านั้น เธอเล่าว่าสามีของเธอกล่าวคำขอโทษก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง
แดเนียลกล่าวต่อไปว่า แม้ว่าจะมีเด็กจำนวนมากที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่เด็ก ๆ เหล่านั้นอาจต้องสูญเสียอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือการใช้ชีวิตในสังคม จริงอยู่ที่เด็ก ๆ สามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่ก็ใช่ว่าจะฟื้นตัวได้เร็วเหมือนกันหมดทุกคน
- ที่มา: เอพี