ฮ่องกงขึ้นบัญชี ‘สหรัฐฯ-ไทย’ เป็นประเทศเสี่ยงโควิดระดับสูง - เพิ่มวันกักตัวเป็น 21 วัน
ฮ่องกงขึ้นบัญชีสหรัฐฯ ไทย และอีกกว่าสิบประเทศทั่วโลก เป็นประเทศเสี่ยงโควิดระดับสูง พร้อมเพิ่มวันกักตัวสำหรับผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศเหล่านี้เป็น 21 วัน เริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์นี้ ตามรายงานของเอพี
แถลงการณ์ของทางการฮ่องกง ปรับอันดับให้สหรัฐฯ และอีก 15 ประเทศ ซึ่งรวมถึงไทย มาเลเซีย ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ เป็นกลุ่มประเทศ ‘เสี่ยงสูง’ ต่อการระบาดของโควิดกลายพันธุ์เดลตา จากเดิมที่ประเทศกลุ่มนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิดระดับ ‘ปานกลาง’ ทำให้ตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป (20 สิงหาคม) ผู้ที่เดินทางจากกลุ่มประเทศนี้ จะต้องกักตัวสังเกตอาการเป็นเวลาถึง 21 วัน รวมทั้งต้องได้รับวัคซีนครบโดส และมีผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทางมายังฮ่องกง
พร้อมกันนี้ ทางการฮ่องกง ยังปรับให้ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศเสี่ยงโควิดระดับ ‘ปานกลาง’ ส่วนนิวซีแลนด์ ยังคงเป็นประเทศเสี่ยงโควิดระดับ ‘ต่ำ’ ซึ่งยังต้องกักตัวเป็นเวลา 7-14 วัน นอกเหนือจากข้อบังคับให้ต้องฉีดวัคซีนครบโดส มีผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทางมายังฮ่องกง เริ่มต้นในวันศุกร์นี้เช่นกัน
การปรับเปลี่ยนรายชื่อประเทศเสี่ยงโควิดรอบนี้ มีขึ้นหลังจากพบชาวฮ่องกงที่เดินทางกลับจากสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบติดโควิด-19 ทั้งที่ได้รับวัคซีนโควิดครบโดส และยังมีระดับภูมิคุ้มกันโควิดหลังรับวัคซีนไปแล้ว
ที่ผ่านมา ฮ่องกง ดำเนินมาตรการ “zero-COVID” ซึ่งมีมาตรการจำกัดการเดินทางของชาวต่างชาติในประเทศเสี่ยงโควิดระดับสูง เพื่อสกัดกั้นการระบาดในประเทศ และเปิดทางให้ฮ่องกงกลับมาเปิดพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่ได้อีกครั้ง แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ฮ่องกงพบคนงานก่อสร้างวัย 43 ปี ที่พบว่ามีระดับภูมิคุ้มกันโควิด ทั้งที่ไม่เคยฉีดวัคซีนและไม่มีประวัติเดินทางต่างประเทศมาก่อน จึงเชื่อว่าอาจเป็นการติดเชื้อในประเทศไปก่อนหน้านี้
ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมของฮ่องกงอยู่ที่ 12,037 ราย เสียชีวิต 212 นับตั้งแต่โควิดระบาดไปทั่วโลก
นิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ ประกาศล็อคดาวน์ทั่วประเทศ 3 วัน เริ่มต้นในวันอังคาร (17 สิงหาคม) หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกในรอบ 6 เดือน เป็นชายวัย 58 ปี ซึ่งพบว่าติดเชื้อระหว่างการเดินทางภายในประเทศ และยังไม่ยืนยันว่าเป็นการติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์เดลตาหรือไม่
นิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,914 ราย และเสียชีวิต 26 คน ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ยังคงมาตรการเข้มงวดในการสกัดกั้นการระบาดของโควิด ที่จะกระทบระบบสาธารณสุขของประเทศ และสั่งปิดพรมแดนมาต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า เพื่อป้องกันการระบาดของโควิดกลายพันธุ์
ญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูกะ แห่งญี่ปุ่น ขยายการประกาศภาวะฉุกเฉินในวันอังคาร ครอบคลุม 7 จังหวัดของญี่ปุ่น ไปจนถึง 12 กันยายนนี้ และมาตรการกึ่งฉุกเฉินในอีก 10 จังหวัด รวมทั้งพิจารณามาตรการลงโทษและสั่งปรับผู้ที่ละเมิดมาตรการในช่วงภาวะฉุกเฉินในประเทศ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต่างมองว่ารัฐบาลญี่ปุ่นควรบังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ จากที่ตอนนี้ราว 2 ใน 3 ของประเทศอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือกึ่งฉุกเฉินอยู่แล้ว
(เนื้อหาบางส่วนจาก Associated Press, Reuters และ Agence France-Presse)