สื่อสหรัฐฯรายงานว่า คณะกรรมการจัดโต้อภิปรายของตัวแทนลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเปลี่ยนกฎดีเบต หลังจากที่การโต้วาทีรอบเเรกระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์และอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนปะทะคารมเมื่อคืนที่ผ่านมา
ในการดีเบตรอบเเรกที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกเตือนบ่อยครั้งโดยพิธีกร คริส วอลเลสให้ทำตามกฎห้ามพูดแทรก เมื่อฝ่ายตรงข้ามแสดงทัศนะในหัวข้อที่พิธีกรเปิดประเด็นด้วยคำถาม
ในวันพุธคณะกรรมการจัดดีเบต กล่าวว่าหลังจากการโต้อภิปรายเมื่อคืนนี้ เห็นได้ชัดว่าควรมีการเพิ่มกฎให้เกิดการแบ่งช่วงที่ชัดเจน และให้การแสดงทัศนะของเเต่ละฝ่ายนเกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
คณะกรรมการ กล่าวด้วยว่าจะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงอย่างระมัดระวัง และจะมีการแถลงกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในไม่ช้านี้
ดีเบตเมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐฯเป็นไปอย่างยากที่จะคุมเกมตามกติกา แทบจะตลอดช่วง 90 นาที โดยเเต่ละฝ่ายกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าขาดความเหมาะสมเป็นผู้นำประเทศ ในหัวข้อต่างๆ ตั้งเเต่การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูง การจัดการต่อการระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจ ความตึงเครียดในสังคมและเรื่องเชื้อชาติสีผิว รวมถึงความมั่นใจในกระบวนการเลือกตั้ง เป็นต้น
แต่ละช่วงของการอภิปรายหัวข้อต่างๆ มีการเถียงและแย่งพูดกัน นอกจากนี้จะเกิดการโจมตีด้วยคำพูดถากถาง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ถูกโจ ไบเดนเรียกว่าเป็น "ตัวตลก" และเป็นประธานาธิบดี "ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน" ขณะที่ทรัมป์กล่าวสบประมาทสติปัญญา และผลงานของไบเดน
ตามตารางดีเบต ในสัปดาห์หน้า วันที่ 7 ตุลาคม จะมีการโต้อภิปรายระหว่างผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี คือรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ที่จะลงคู่กับทรัมป์เป็นสมัยที่สอง และ ส.ว.คามาลา แฮร์ริสที่จะลงคู่กับโจ ไบเดน
ส่วนทรัมป์และไบเดน มีกำหนดขึ้นเวทีดีเบตกันอีกสองครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม ก่อนวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน