สำนักสำรวจความคิดเห็น Gallop เปิดเผยในวันพุธ ว่าประชาชนอเมริกันพอใจในผลงานการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ ร้อยละ 45
หากนับตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเริ่มกระบวนการไต่สวนขอถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ ในฤดูใบไม้ร่วง ความนิยมในตัวเขาเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์
การเปิดเผยของ Gallop ตรงกับวันที่สภาผู้แทนฯ ที่พรรคเดโมเเครตคุมเสียงข้างมาก มีกำหนดลงมติขอถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี
Gallop รายงานว่า ความนิยมในตัวโดนัลด์ ทรัมป์สูงถึงร้อยละ 89 ในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันที่เขาสังกัดอยู่ แต่สำหรับผู้สนับสนุนเดโมเเครต ทรัมป์มีคะเเนนนิยมเพียงร้อยละ 8 เท่านั้น
แม้ว่า ระดับการสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ จากกลุ่มผู้มีสิทธิ์ออกเสียง "อิสระ" หรือกลุ่มสายกลาง อยู่ที่ไม่ถึงร้อยละ 50 คืออยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34 เมื่อสภาผู้แทนฯเริ่มกระบวนการไต่สวนขอถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ
ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คะเเนนนิยมในตัวเขา แกว่งอยู่ในช่วง 34 ถึง 46 เปอร์เซ็นต์ ตามรายงานของ Gallop
ดังนั้นคะเเนนความนิยมล่าสุดที่ร้อยละ 45 ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง สำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาถึงมรสุมการเมืองจากฝ่ายเดโมเเครต
ผู้จัดทำโพลล์สำนักอื่นเช่นซีเอ็นเอ็นแสดงให้เห็นถึงการลดลงของเเรงสนับสนุนให้ถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวคือ ร้อยละ 45 เห็นด้วยกับการถอดถอนทรัมป์ ในผลโพลล์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ลดลงจากร้อยละ 50 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ข่าวดีจากโพลล์สำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นท่ามกลางสัญญาณเชิงบวกทางเศรษฐกิจ
เมื่อต้นเดือนธันวาคม กระทรวงแรงงานอเมริกันเปิดเผยว่า การจ้างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงจากระดับ 3.6% เมื่อเดือนตุลาคม เป็น 3.5% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
ตัวเลขของกระทรวงแรงงานยังชี้ด้วยว่า อัตราค่าแรงในอเมริกาเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือน พ.ย.เทียบกับปีที่แล้ว