เซเลนสกีมอง 'บุคลิกทรัมป์' เป็นปัจจัยสำคัญต่ออนาคตสงครามในยูเครน

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และโดนัลด์ ทรัมป์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น พบกันที่นครนิวยอร์ก 27 ก.ย. 2024

ประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีกล่าวเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีบุคลิก "เเข็งขันและเดายาก" จะมีบทบาทสำคัญในนโยบายต่อสงครามในยูเครน

ผู้นำยูเครนกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สงครามที่เกิดขึ้นจากการบุกของรัสเซียที่กินเวลามายาวนานเกือบ 3 ปี จบลงภายในวันเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์เคยพูดไว้ช่วงหาเสียงว่ามารถทำได้

เซเลนสกีกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า "ช่วงความร้อนเเรงของสงครามสามารถจะจบลงโดยเร็ว ถ้าทรัมป์เเข็งขันในจุดยืนของเขา" ซึ่งเซเลนสกีหมายถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดในสนามรบ

ผู้นำยูเครนกล่าวว่า "ผมเชื่อว่า (ทรัมป์) เป็นคนเเข็งขันและคาดเดายาก ผมอยากให้ความคาดเดายากของประธานาธิบดีทรัมป์ถูกใช้ใน (นโยบายต่อ) สหพันธรัฐรัสเซีย"

ทั้งนี้ทรัมป์ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายต่อยูเครนเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของทรัมป์ก่อนหน้านี้สร้างคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็นผู้สนับสนุนด้านการทหารต่อยูเครนรายใหญ่ที่สุดต่อไปหรือไม่

ส่วนเซเลนสกีต้องการที่จะให้การสนับสนุนของรัฐบาลกรุงวอชิงตันมีอยู่ต่อไป และได้พบกับทรัมป์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นิวยอร์กไปแล้ว

เมื่อปีที่เเล้วกองทัพรัสเซียชิงความได้เปรียบเหนือยูเครนเเละสามารถรุกคืบได้อย่างช้า ๆ ทางตะวันออกของยูเครน แม้ว่าจะเกิดความสูญเสียต่อกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ของฝ่ายมอสโกในการบุก โดยปัจจุบันรัสเซียควบคุมดินเเเดนหนึ่งในห้าของยูเครน

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเอ็มมานูเอล มาคร็องเคยกล่าวว่า ทางออกหนึ่งคือการให้เกิดความตกลงหยุดยิงในยูเครน และให้มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพจากโลกตะวันตกเข้าไปในยูเครนเพื่อดูเเลสถานการณ์ในช่วงดังกล่าว โดยผู้นำสหรัฐฯ เห็นด้วยกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ตามข้อมูลของเซเลนสกี ซึ่งได้พบกับทรัมป์เเละมาคร็องที่กรุงปารีสเมื่อเดือนธันวาคม

แม้นักวิเคราะห์กล่าวว่ายูเครนเสียพื้นที่ที่เคยยึดได้ในเเคว้นเคิร์สกในรัสเซียราว 40% แต่ เซเลนสกี กล่าวว่าปฏิบัติการของยูเครนในเคิร์สกเป็นรอยด่างต่อชื่อเสียงกองทัพรัสเซีย และสร้างความประทับใจต่อประเทศในเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาใต้

  • ที่มา: เอพี