ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยอมรับในวันพฤหัสบดีว่า กองทัพรัสเซียสามารถยึดครองอาณาเขตของยูเครนได้ราว 20% แล้ว โดยเฉพาะในส่วนแนวหน้าของการรบที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร
ทางการยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า กองกำลังของตนสามารถยึดคืนพื้นที่เมืองและหมู่บ้านเล็ก ๆ จำนวน 20 แห่งในแคว้นเคอร์ซอน ทางใต้ของประเทศ กลับคืนมาได้แล้ว ขณะที่ กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีเมืองเซเวโรดอแนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของยูเครนในเขตปกครองลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของประเทศต่อไป
กระทรวงกลาโหมอังกฤษ รายงานด้วยว่า รัสเซียได้เข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเซเวโรดอแนตสก์แล้ว และว่า กองกำลังยูเครนยังคงควบคุมถนนสายหลักเข้าสู่เมืองนี้ได้อยู่ แต่รัสเซียก็สามารถ “ค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปในพื้นที่ ด้วยการเน้นการยิงถล่มอย่างหนัก”
เจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า กองกำลังกรุงเคียฟหวังที่จะยึดคืนอาณาเขตที่สูญเสียให้กับรัสเซียไปในตอนต้นของสงครามในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ เพื่อเอาคืนกับรัสเซียที่พุ่งสรรพกำลังไปยังพื้นที่แคว้นดอนบาสอยู่
ขณะเดียวกัน ปธน.เซเลนสกี กล่าวด้วยว่า ขณะที่ ยูเครนรู้สึกซาบซึ้งสำหรับความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่นานาประเทศส่งมาให้ กรุงเคียฟยังต้องขอให้พันธมิตรทั้งหลายส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มาให้เพิ่มต่อไป
คำร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มจากผู้นำยูเครนนี้มีออกมา หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยว่า สหรัฐฯ กำลังจะนำส่งความช่วยเหลือในรูป “กระสุนและระบบยิงจรวดที่ล้ำสมัยมากขึ้น” เป็นมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ ให้กับยูเครน เพื่อใช้ในการรับมือกับการรุกรานของรัสเซียที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ยูเครนให้สัญญาว่าจะไม่ยิงจรวดดังกล่าวเข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียด้วย
ในแถลงการณ์ที่มีออกมาเมื่อวันพุธ ปธน.ไบเดน ระบุว่า “(ความช่วยเหลือ)ชุดใหม่จะช่วยเสริมสรรพกำลัง(ยูเครน) ด้วยระบบอาวุธล้ำสมัย อาทิ จรวดหลายลำกล้อง (High Mobility Artillery Rocket System – HIMARS) พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับสนามรบ เพื่อปกป้องอาณาเขตของตนจากการรุกคืบของรัสเซีย” และว่า “เราจะเดินหน้านำพาโลกในการส่งมอบความช่วยเหลือครั้งประวัติศาสตร์เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของยูเครนให้ได้มาซึ่งเสรีภาพ”
SEE ALSO: สหรัฐฯ-เยอรมนีเผยจะส่งจรวดให้ยูเครนเพิ่มความเเม่นยำในการต้านรัสเซีย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยด้วยว่า ระบบอาวุธดังกล่าวได้รับการดัดแปลง “ให้สอดคล้องกับความต้องการ” ของภาวะการสู้รบในปัจจุบันที่บริเวณภาคตะวันออกของยูเครน
คอลิน คาห์ล รองรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในวันพุธว่า สหรัฐฯ กำลังนำส่งระบบจรวดแบบใหม่ 4 ชุด ให้กับยูเครน ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกราว 3 สัปดาห์ในการอบรบกองทัพยูเครนให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่สำหรับการอบรบที่ว่า โดยกล่าวเพียงว่า จะเป็นพื้นที่ในทวีปยุโรปเท่านั้น
นอกจากนั้น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธเช่นกันว่า เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การนาโต้ ยอมรับว่า ในเวลานี้ ยังไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่า ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกจะยุติอย่างไรและเมื่อไร แต่นาโต้ต้องการจะเห็นยูเครนมีความแข็งแกร่งพอเมื่อจะต้องเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพในอนาคต
ทางฟากรัสเซียนั้น หลังจากมีรายงานข่าวเกี่ยวกับแผนส่งมอบอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับยูเครนออกมาก เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอสโก เตือนว่า การนำส่งระบบยิงจรวดที่ว่ามีแต่จะยกระดับความเสี่ยงของการขยายวงความขัดแย้งให้กว้างขึ้น และเรียกการร้องขออาวุธเพิ่มเติมของยูเครนจากพันธมิตรชาติตะวันตกว่าเป็น “การยั่วยุโดยตรง ที่มีจุดประสงค์ดึงตะวันตกเข้ามาร่วมในการสู้รบด้วย”
ส่วน ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การนำส่งอาวุธของสหรัฐฯ นั้นจะไม่ได้ช่วยนำไปสู่การกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพได้เท่าใดเลย
-
ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์