ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เรียกร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ในวันพฤหัสบดีให้มีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการรุกรานยูเครน
ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า “อาชญากรรมของรัสเซียเพียงกรณีเดียวที่นำมาซึ่งอาชญากรรมทั้งหมดนี้: นี่คืออาชญากรรมรุกราน จุดเริ่มต้นของความชั่วร้าย อาชญากรรมตั้งต้น ต้องมีการออกมารับผิดชอบต่ออาชญากรรมนี้”
ผู้นำยูเครนเดินทางมาถึงเนเธอร์แลนด์ในช่วงค่ำวันพุธ หลังแวะเยือนฟินแลนด์โดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้าในช่วงเช้าของวัน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับผู้นำกลุ่มประเทศนอร์ดิก
SEE ALSO: ศาลอาญาโลกออกหมายจับ 'ปูติน' ก่ออาชญากรรมสงครามยูเครน
รัสเซียส่งโดรน-ยิงขีปนาวุธถล่มต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธและส่งโดรนเข้ามาโจมตีกรุงเคียฟและเมืองโอเดซาในช่วงก่อนรุ่งสางของวันพฤหัสบดีอีกครั้ง
รัฐบาลท้องถิ่นกรุงเคียฟเปิดเผยว่า “ฝ่ายรัสเซียโจมตีเคียฟ โดยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ [โดรน] ชาเฮด และขีปนาวุธ ซึ่งน่าจะเป็นแบบวิถีโค้ง”
กองบัญชาการด้านใต้ของยูเครนกล่าวด้วยว่า โดรนจำนวน 12 จากทั้งหมด 15 ลำที่ถูกส่งเข้ามายังเมืองโอเดซานั้นถูกทำลายไป ขณะที่ โดรน 3 ลำถูกยิงส่งเข้าไปในพื้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากพื้นที่ดังกล่าว
รัสเซียอ้าง สหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังแผนลอบสังหารปูติน
ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวในวันพฤหัสบดี โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ ว่า สหรัฐฯ เป็นผู้ตัดสินใจให้มีการโจมตีทำเนียบที่พักของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยให้ยูเครนเป็นผู้ลงมือ หลังเปิดเผยในวันพุธว่า กรุงเคียฟส่งโดรน 2 ลำเข้ามายังเครมลินในค่ำคืนก่อนหน้า แต่ระบบรักษาความปลอดภัยสามารถจัดการกับอากาศยานไร้คนขับเหล่านี้ได้ และผู้นำรัสเซียไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวด้านความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า เพสคอฟ นั้น “กำลังโกหกอยู่” และว่า สหรัฐฯ ไม่เคยสนับสนุนหรือเกื้อหนุนให้ยูเครนทำการโจมตีนอกพรมแดนของตน
ไม่มีฝ่ายใดสามารถตรวจสอบคำกล่าวอ้างของรัสเซียนี้ว่าเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่หลังมีรายงานออกมา และเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของยูเครนยืนยันว่า รัฐบาลกรุงเคียฟไม่ได้มีส่วนร่วมกับการโจมตีด้วยโดรนที่รัสเซียกล่าวอ้างด้วย
ทั้งนี้ เครมลินกล่าวว่า ตน “ถือว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการก่อการร้ายที่วางแผนไว้ล่วงหน้าและมุ่งหมายต่อชีวิตของประธานาธิบดี” และว่า รัสเซียสงวนสิทธิ์ที่จะตอบโต้ ทั้งยังกล่าวด้วยว่า “การลงมือทำการอย่างทันท่วงทีโดยกองทหารและหน่วยพิเศษต่าง ๆ” จัดการหยุดการทำงานของโดรนที่ว่าไปแล้ว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตรวจสอบยืนยันรายงานของเครมลินได้ และระบุว่า “ผมจะฟังหูไว้หู อะไรก็ตามที่เครมลินพูดออกมา ด้วยความระมัดระวังอย่างมาก”
ขณะเดียวกัน มีโคไล โพลโดยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุในความเห็นที่ส่งให้กับรอยเตอร์ว่า “แน่นอน ยูเครนไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับการโจมตีด้วยโดรนใส่เครมลิน เราไม่ได้โจมตีเครมลิน เพราะว่า อย่างแรกเลย นั่นไม่ได้จะช่วยคลี่คลายภารกิจทางทหารใด ๆ” และว่า “ในความเห็นของผม มันชัดเจนแน่นอนอยู่แล้วว่า รายงานทั้งสองฉบับเกี่ยวกับการโจมตีเครมลินและการที่บอกว่ามีการควบคุมตัวผู้ก่อวินาศกรรมชาวยูเครนในไครเมีย ... บ่งชี้ชัดว่า รัสเซียมีการเตรียมการยั่วยุตามแบบผู้ก่อการร้ายขนาดใหญ่ในไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว”
ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์