เซเลนสกี ร้องขอประชาชนในดอแนตสก์เร่งอพยพลี้ภัยสงคราม

An AFP journalist runs as smoke rises behind after a bombardment in Bakhmut, Eastern Ukraine, July 31, 2022.

ในการแถลงข่าวรายวันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เรียกร้องให้ประชาชนในเขตปกครองดอแนตสก์ทำการอพยพลี้ภัยสงครามที่รุนแรงขึ้น ขณะที่ฝ่ายรัสเซียพยายามเดินหน้ายึดครองพื้นที่ดังกล่าวในภาคตะวันออกของยูเครนให้ได้

รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนหลายแสนคน ที่มีทั้งเด็กและผู้สูงอายุอยู่ด้วย ยังคงติดอยู่ในพื้นที่สู้รบในแคว้นดอนบาส

ปธน.เซเลนสกี ระบุด้วยว่า “ยิ่งมีการอพยพออกจากเขตปกครองดอแนตสก์ในตอนนี้เท่าใด ยิ่งมีผู้ที่จะถูกกองทัพรัสเซียสังหารน้อยลงเท่านั้น” และกล่าวว่า “หลายคนปฏิเสธที่จะทิ้งบ้านของตน แต่นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก... ถ้าคุณมีโอกาส ได้โปรดพูดคุยกับผู้ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่สู้รับในดอนบาส โปรดพูดให้พวกเขาเชื่อว่า การลี้ภัยออกจากพื้นที่นั้นเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ”

และในช่วงเช้าของวันเสาร์ ยูเครนเรียกร้องให้รัสเซียออกมารับผิดชอบต่อการยิงขีปนาวุธเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ส่งผลให้เชลยศึกยูเครนหลายสิบคนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในพื้นที่ที่กองทัพมอสโกควบคุมอยู่เสียชีวิตลงด้วย

This frame from a video shows a destroyed barracks at a prison in Olenivka, in an area controlled by Russian-backed separatist forces, eastern Ukraine, July 29, 2022. Russia and Ukraine accused each other Friday of shelling the prison.

รัฐบาลยูเครนยังได้แจ้งต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ให้เร่งทำการสอบสวนประเด็นนี้ทันที โดย ICRC เปิดเผยในวันเสาร์ว่า ทางองค์กรนั้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการโจมตีซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของยูเครนเลย

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวการโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดกระแสโกรธแค้นออกมาจากทั่วโลก และยูเอ็นก็ได้ประกาศคำมั่นที่จะสนับสนุนการสอบสวนกรณีนี้แล้ว

ฟาร์ฮาน ฮัค รองโฆษกของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ระบุในแถลงการณ์ว่า “สำหรับกรณีเหตุโศกนาฏกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นที่เรือนจำใน โอเลนิฟกา เราขอแสดงความพร้อมที่จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าทำการสอบสวน โดยขอความเห็นชอบจากทุกฝ่าย(ที่เกี่ยวข้องด้วย)”

ในกรณีนี้ ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้ทำการโจมตี แต่ยังไม่มีใครสามารถตรวจสอบคำกล่าวอ้างของทั้งสองได้ และตราบจนบัดนี้ ยังไม่มีองค์การความช่วยเหลือระหว่างประเทศใดที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ที่ถูกยิงโจมตีได้

รัสเซียออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ว่า มอสโกขอเชิญผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นและกาชาดเข้าสอบสวนการเสียชีวิตที่เรือนจำดังกล่าวแล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

Investigators examine bodies of Ukrainian military prisoners at a prison in Olenivka, in an area controlled by Russian-backed separatist forces, eastern Ukraine, July 29, 2022.

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า มีนักโทษ 40 คน ถูกสังหารในเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่มีนักโทษอีก 75 คนที่ได้รับบาดเจ็บ โดย รัสเซียยืนยันว่า ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตในอเมริกายิงโจมตีเรือนจำที่ว่า เพื่อไม่ให้นักรบของตนต้องยอมจำนนต่อกองกำลังรัสเซีย

แต่กองกำลังยูเครนออกมาโต้คำกล่าวอ้างนี้ และระบุว่า รัสเซียคือผู้ยิงอาวุธเข้าใส่ค่ายเรือนจำนี้ เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยการทารุณกรรมต่อนักโทษของตน

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ปธน.เซเลนกี ชี้ว่า การโจมตีที่เกิดขึ้น คือ อาชญากรรมสงครามอย่างจงใจของรัสเซีย และเป็นการสังหารหมู่เชลยศึกชาวยูเครนด้วย โดยกองทัพยูเครนกำลังพยายามขอร่างผู้เสียชีวิตกลับคืนอยู่ ขณะที่ ทางรัสเซียเพียงแต่เปิดเผยชื่อของผู้เสียชีวิตออกมาเท่านั้น

และเมื่อวันเสาร์เช่นกัน การต่อสู้ระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงเดินหน้าในพื้นที่เมืองเคอร์ซอนทางตอนใต้ของยูเครน โดยกองทัพกรุงเคียฟอ้างว่า สามารถสังหารทหารของรัสเซียได้กว่า 100 รายระหว่างการรบในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ รัสเซียประกาศว่า กองทัพของตนได้สังหารทหารของยูเครนไปกว่า 130 รายที่บนรถไฟสายหนึ่งในแคว้นดอนบาสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอ้างว่า กำลังรุกคืบได้เรื่อย ๆ เข้าไปในพื้นที่การรบด้วย

  • ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพีและรอยเตอร์