คนหนุ่มสาวติดเชื้อโควิด-19 เสี่ยงปัญหาระบบประสาทและโรคหัวใจระยะยาว

People wearing a face masks to prevent the spread of coronavirus wait to board a ferry in the port of Piraeus, near Athens, on Friday, Aug. 7, 2020. Young people "are not invincible", the World Health Organization (WHO) officials said a week ago…

ในทางการแพทย์ คนหนุ่มสาวมักจะมีอาการเจ็บป่วยจากโควิด-19 น้อยกว่าผู้สูงอายุ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าช่องว่างนั้นกำลังลดน้อยลง และสิ่งที่เรียกว่า Superspreading หรือการแพร่ระบาดในวงกว้างในหมู่คนหนุ่มสาว เป็นปัจจัยสำคัญของเรื่องนี้

Dr. Takeshi Kasai ผู้อำนวยการภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกขององค์การอนามัยโลก กล่าวในการแถลงข่าวออนไลน์เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่าการแพร่ระบาดกำลังเปลี่ยนแปลงไป ประชากรในช่วงอายุ 20 30 และ 40 ปี กำลังขับเคลื่อนการแพร่ระบาดให้เพิ่มมากขึ้น หลายคนไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อเนื่องจากมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการเลย ซึ่งอาจส่งผลให้พวกเขาแพร่เชื้อไวรัสไปยังผู้อื่นโดยที่ไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 กันยายน นักศึกษามหาวิทยาลัยอายุ 19 ปีเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทอันเกี่ยวเนื่องมาจากโคโรนาไวรัส

Chad Dorrill นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากมหาวิทยาลัย Appalachian State University รัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงต้นเดือนกันยายน และเกิดภาวะแทรกซ้อนในภายหลัง

Sheri Everts อธิการบดีมหาวิทยาลัย Appalachian State University กล่าวว่า Dorrill เกิดภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติมหลังจากที่แพทย์อนุญาติให้เขากลับไปเรียนหนังสือได้ เธอแนะนำว่า ทุกๆ คนจะต้องระมัดระวังพฤติกรรมด้านความปลอดภัยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

งานวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ในแอตแลนตา ที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 23 กันยายน รายงานว่า กลุ่มคนอายุ 20 ถึง 29 ปีเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในสหรัฐฯ ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม พ.ศ. 2563 และมีแนวโน้มว่าคนกลุ่มนี้มีส่วนในการแพร่เชื้อโควิด-19 ในชุมชนอีกด้วย

ข้อมูลของ CDC ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม กลุ่มคนอายุ 18 ถึง 29 ปีติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ สูงที่สุด คิดเป็นอัตราส่วน 23.7% หรือ 1,269,397 รายกลุ่มอายุ 50 ถึง 64 ปีตามมาเป็นอันดับที่สอง อยู่ที่ 20.6% หรือ 1,000,476 ราย

ทั้งนี้ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าโคโรนาไวรัสมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวในหมู่วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่อายุยังน้อย

รายงานจาก CDC ระบุว่า จากการสำรวจกลุ่มผู้ใหญ่ หลังจากที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ 2-3 สัปดาห์ทางโทรศัพท์ พบว่า 35% ของคนเหล่านั้นสุขภาพยังไม่กลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ 20% ของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 34 ปีที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง รายงานว่าสุขภาพของพวกเขายังไม่กลับมาเป็นปกติด้วยเช่นเดียวกัน

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Heart Association ในเดือนนี้พบว่า ผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเฉียบพลัน หรือที่ติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ อาจถูกตรวจพบอาการต่าง ๆ ของโรคหัวใจ ถึงแม้ว่าจะมีอาการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยก็ตาม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุคือกลุ่มคนที่ติดเชื้อมากที่สุดในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด แต่ Karl Lauterbach นักระบาดวิทยาชาวเยอรมัน กล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายน ในขณะที่มีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในจีนและอิตาลีว่า คนหนุ่มสาวหลายพันคนอาจเป็นผู้เพาะพันธุ์เชื้อโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา และว่า แม้ว่าโรคนี้จะมีความรุนแรงในหมู่ผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้เราทราบแล้วว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากก็มีอาการป่วยหนักและยังอาจมีผลตามมาในระยะยาวอีกด้วย

Lauterbach กล่าวต่อไปอีกว่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า 80% ของการแพร่เชื้อโควิด-19 นั้นเกิดขึ้นในหมู่ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ดังนั้น คนหนุ่มสาวควรตระหนักว่าหากพวกเขาปฏิบัติตัวแบบไม่ระมัดระวัง ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ยังทำให้คนรอบข้าง ผู้สูงอายุ และเพื่อนฝูงตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยเช่นเดียวกัน และที่สำคัญทุกคนควรทราบว่าโรคนี้มีความร้ายแรงต่อทุกเพศทุกวัย

อย่างไรก็ดี ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามีคนหนุ่มสาวจำนวนไม่มากนักที่เสียชีวิตจากโรคนี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่เห็นว่ามีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่ต้องรักษาตัวในห้องไอซียูและมักจะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจด้วย ซึ่งในตอนนี้ เราไม่อาจทราบได้เลยว่าคนเหล่านั้นจะสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพปอดได้เต็มที่หรือไม่ ดังนั้นเราจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าที่เคยเป็นมา