ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ร่วมประณามในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าพฤติกรรมก้าวร้าวของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมให้คำมั่นในการกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นด้านกลาโหมและการทหารระหว่างรัสเซียและจีน
ผู้นำจีนและรัสเซีย ออกแถลงการณ์ร่วมที่กรุงปักกิ่ง ในระหว่างการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีปูติน ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่แนบแน่นของสองประเทศ และลงรายละเอียดชัดเจนถึงความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างสองชาติ ที่ช่วยยกระดับความมั่นคงในภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงแผนการยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลปักกิ่งและรัฐบาลมอสโกเห็นพ้องต้องกันในหลากหลายประเด็นสำคัญ รวมทั้งเรื่องยูเครน และจะต่อต้านแรงกดดันจากชาติตะวันตกที่พยายามบั่นทอนความสัมพันธ์ของสองชาติ
ปธน.สีกล่าวกับปธน.ปูตินว่า “ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียในวันนี้ก่อร่างสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก และทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องรักษาและทะนุถนอมไว้” และว่า “จีนยินดีที่จะ ... ร่วมกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาและฟื้นฟูประเทศของเรา และทำงานร่วมกันเพื่อรักษาความเท่าเทียมและความยุติธรรมบนโลกนี้”
ปธน.ปูติน เดินทางเยือนจีน เพื่อปฏิบัติภารกิจเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำรัสเซียสมัยที่ 5 ในเดือนนี้ บอกว่าความร่วมมือระหว่างรัฐบาลมอสโกและรัฐบาลปักกิ่งต่อกิจการของโลก เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ
ผู้นำรัสเซีย กล่าวกับผู้นำจีนว่า “เมื่อเราร่วมมือกัน เรากำลังปกป้องหลักการของความยุติธรรมและระเบียบประชาธิปไตยโลกที่สะท้อนถึงความเป็นจริงหลายขั้วและอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ”
แถลงการณ์ร่วมได้โจมตีรัฐบาลกรุงวอชิงตันอย่างชัดเจน หลังจากที่สหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงเยือนจีนเมื่อเดือนก่อน เพื่อหวังโน้มน้าวจีนให้ลดระดับความสัมพันธ์กับรัสเซีย และถือโอกาสประณามการยึดทรัพย์สินในต่างประเทศ ที่ชาติตะวันตกเคลื่อนย้ายสินทรัพย์และผลกำไรจากสินทรัพย์ของรัสเซียไปช่วยยูเครน
โดยผู้นำจีน บอกว่าทั้งรัสเซียและจีนเห็นพ้องต้องกันในการใช้การเจรจาทางการเมืองเพื่อยุติวิกฤตยูเครนว่าเป็น “ทิศทางที่ถูกต้อง” และทั้งสองประเทศไม่เห็นด้วยที่ถูกดึงออกมาจากความขัดแย้งนี้ และการเปลี่ยนแปลงไปสู่เฟสที่ไม่สามารถควบคุมได้ในวิกฤตยูเครน
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ร่วมของสองผู้นำ ยังกล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าความพยายามของสหรัฐฯ ในการละเมิดสมดุลนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ การป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ ที่คุกคามรัสเซียและจีน และแผนการของสหรัฐฯ เกี่ยวกับอาวุธความแม่นยำสูงที่ไม่ใช่นิวเคลียร์
การเยือนกรุงปักกิ่งของปธน.ปูติน มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เยือนจีนเพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่รมต.บลิงเคนบอกว่า เป็นการสนับสนุนของจีนต่อกองทัพรัสเซีย และเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากรัฐบาลกรุงวอชิงตันจะประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจชุดใหม่กับบริษัทจีนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกลาโหมรัสเซีย
ปธน.ปูติน วัย 71 ปี และปธน.สี วัย 70 ปี เข้าร่วมการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 75 ปีตั้งแต่สหภาพโซเวียตให้การยอมรับสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 1949 นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียเยือนเมืองฮาร์บิน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกับรัสเซีย เพื่อร่วมพิธีเปิดห้างที่จำหน่ายสินค้าที่ผลิตโดยบริษัทรัสเซีย 80 บริษัท ในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ตามรายงานของสื่อไชน่า เดลี
ทั้งนี้ การที่ปธน.ปูตินเลือกจีนเป็นหมุดหมายสำคัญในการเยือนต่างประเทศครั้งแรกหลังรับตำแหน่งผู้นำรัสเซีย ที่จะมีวาระดำรงตำแหน่งไปจนถึงอย่างน้อยปี 2030 เป็นการส่งสัญญาณให้ทั่วโลกรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของเขาและความสัมพันธ์ส่วนตัวอันแข็งแกร่งกับปธน.สี
- ที่มา: รอยเตอร์